นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า วันนี้แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านประชุมร่วมกันผ่านระบบประชุมทางไกลเพื่อหารือเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 โดยมีการหารือถึงกรอบเวลาว่าจะยื่นญัตติเมื่อใด เนื้อหาเป็นอย่างไร และจำนวนผู้อภิปราย
การหารือได้ข้อสรุปว่าห้วงเวลาที่จะยื่นอภิปรายจะต้องสัมพันธ์กันระหว่าง 4 เรื่อง คือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ งบประมาณ กฎหมายลูก และวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โดยที่ประชุมเห็นตรงกันว่าจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทันทีเมื่อเปิดสมัยประชุมวันที่ 22 พ.ค.65 แต่ต้องดูว่ามีวาระจำเป็นเร่งด่วนอื่นที่สภาฯ ต้องพิจารณาหรือไม่ อาทิ กฎหมายลูก เศรษฐกิจปากท้อง ผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และโควิด-19
ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า หากเปิดสภาฯ แล้วกฎหมายลูกยังไม่เสร็จก็จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อน แต่ถ้าเสร็จช่วงเวลาเดียวกันก็จะพิจารณาอีกทีว่าอะไรจะก่อนหลัง ซึ่งจะหารือกันอีกครั้งคาดว่าปลายเดือน เม.ย. ถึงจะชัดเจนว่าจะยื่นอภิปรายช่วงใด
สำหรับประเด็นอภิปราย เรามอบหมายให้แต่ละพรรคไปรวบรวม โดยกำหนดว่าอีก 2 สัปดาห์จะสรุปประเด็นรอบแรก ก่อนที่จะกลั่นกรองให้เหลือประเด็นที่คมชัดที่สุด ส่วนจำนวนผู้อภิปรายรอบนี้ทุกพรรคเห็นตรงกันจะใช้คนไม่มากเหมือนทุกครั้ง จะเลือกเฉพาะคนที่มีทักษะขั้นสูงจริงๆ
ส่วนที่รัฐบาลมั่นใจเรื่องมีเสียงสนับสนุนเพียงพอนั้น นายสุทิน กล่าวว่า มองตรงกันข้ามกัน เพราะหากติดตามข่าววันนี้มีแต่เสียงสั่นคลอนรัฐบาลมากกว่าเสียงสนับสนุน การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งก่อนก็มีเหตุการณ์กบฏเขย่าขวัญจนรัฐบาลเกือบไปแล้ว คราวนี้สถานการณ์เชี่ยวกรากยิ่งกว่าเดิมอีก คิดว่าคงลำบากกว่าครั้งที่ผ่านมา
ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า กระแสข่าวนายกรัฐมนตรีจะยุบสภาฯ หนีการอภิปรายนั้น เรื่องนี้อ่านใจ พล.อ.ประยุทธ์ ยาก แต่สถานการณ์จะปิดล้อมจนทำให้นายกรัฐมนตรีหนักใจกว่าทุกครั้ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มี.ค. 65)
Tags: การเมือง, ฝ่ายค้าน, พรรคเพื่อไทย, รัฐบาลไทย, สุทิน คลังแสง, อภิปรายไม่ไว้วางใจ