ตลาดหุ้นยุโรปปิดดิ่ง วิกฤตยูเครน-ผลประกอบการอ่อนแอฉุดตลาด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรุดตัวลงในวันอังคาร (1 มี.ค.) โดยถูกกดดันจากการเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนและความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในยูเครน ขณะที่รัสเซียเดินหน้าโจมตียูเครนหลังการเจรจาเพื่อหยุดยิงนั้น ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้

  • ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 442.37 จุด ร่วงลง 10.74 จุด หรือ -2.37%
  • ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,396.49 จุด ร่วงลง 262.34 จุด หรือ -3.94%,
  • ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,904.85 จุด ร่วงลง 556.17 จุด หรือ -3.85% และ
  • ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,330.20 จุด ร่วงลง 128.05 จุด หรือ -1.72%

ราคาน้ำมันพุ่งกลับไปอยู่เหนือระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาทองคำ, พันธบัตร และดอลลาร์ปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งส่งผลฉุดตลาดหุ้นอิตาลีและตลาดหุ้นฝรั่งเศสร่วงลงอย่างรุนแรง

ตลาดร่วงลง หลังการเจรจาโดยตรงระหว่างคณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครนเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศได้สิ้นสุดลงเมื่อวันจันทร์ โดยไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด และทั้งสองฝ่ายจะทำการเจรจารอบต่อไปที่ชายแดนเบลารุสและโปแลนด์ในอีกไม่กี่วัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกถูกกดดันหลังจากชาติตะวันตกกำหนดมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงกับรัสเซีย รวมถึงการขัดขวางไม่ให้ธนาคารกลางรัสเซียใช้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศวงเงิน 6.30 แสนล้านดอลลาร์

หุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการ ร่วงลง 7.5% หลังบริษัทฟลัทเทอร์ซึ่งทำธุรกิจพนันเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง ขณะที่การปิดน่านฟ้าเพื่อห้ามสายการบินจาก 36 ประเทศใช้น่านฟ้าของรัสเซีย เพื่อเป็นการตอบโต้ต่อชาติตะวันตกที่ได้คว่ำบาตรรัสเซียก่อนหน้านี้ ได้ส่งผลกระทบต่อหุ้นสายการบิน

ทั้งนี้ สายการบินจากอังกฤษ เยอรมนี สเปน อิตาลี และแคนาดา อยู่ในกลุ่มประเทศที่ถูกห้ามใช้น่านฟ้าของรัสเซีย

หุ้นเชลล์ และหุ้นเมอส์ก ร่วงลง หลังยุติการดำเนินงานในรัสเซีย

หุ้นซาแลนโดและหุ้นเฮลโลเฟรช ร่วง 9.6% และ 7.8% ตามลำดับหลังคาดการณ์ผลกำไรอ่อนแอ

แต่หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มเหมืองแร่ที่ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซนอยู่ที่ 58.2 ในเดือนก.พ. ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 58.7 ในเดือนม.ค. และต่ำกว่าตัวเลขขั้นต้นที่ 58.4

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 มี.ค. 65)

Tags: ,