นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศขอลดบทบาทการทำหน้าที่ทีมกฎหมายในพรรค เพื่อลงรับสมัคร ส.ส.พังงา เขต 2 ว่า ไม่ขอให้ความเห็น เพราะเป็นงานที่จะดำเนินการภายในของพรรค และไม่คิดว่าจะมีผลดีอะไรกับการทำงานภายในพรรค ตนเป็นหัวหน้าพรรคก็ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของพรรค มากกว่าผลประโยชน์ส่วนบุคคล และจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้สนใจสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคมาก ทั้งอดีตส.ส. และคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาแสดงความจำนงต่อพรรค และเชื่อมั่นว่า พรรคประชาธิปัตย์จะได้รับการต้อนรับจากประชาชนมากขึ้นในการเลือกตั้งครั้งหน้า
“ขณะนี้ มีผู้ที่สนใจลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ในแต่ละเขตจำนวนมาก เพราะฉะนั้นเมื่อมีหลายคน พรรคก็มีกระบวนการในการพิจารณาคัดเลือกผู้สมัคร และการมีหลายคนสนใจถือเป็นภาพบวก ไม่ใช่ภาพลบ หากไม่มีใครสนใจสมัครเลยก็น่าจะเป็นภาพลบ เพราะพรรคหาคนไม่ได้ โดยเฉพาะในยามพรรคตกต่ำ หาผู้สมัครยาก ต้องไปกราบไหว้วิงวอน ในหลายยุคหลายสมัยที่จะต้องไปขอให้มาช่วยลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ แต่ยุคนี้หลายเขตหลายพื้นที่รวมทั้งในภาคใต้ มีผู้สนใจลงสมัครหลายคน พรรคก็มีกระบวนการพิจารณาอยู่แล้ว และให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ให้ความสำคัญกับทุกคน ไม่ปิดโอกาสใครและไม่ปิดกั้นใคร เมื่อถึงเวลาก็จะพิจารณาไปตามเนื้อผ้า และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของพรรคเป็นหลักมากกว่าตัวบุคคล”
นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ในภาพรวมพรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าไปได้ด้วยดี มีปัญหาอุปสรรคบ้างเหมือนกับทุกพรรคที่ไม่มีอะไรราบรื่นไปทั้งหมด แต่หลักใหญ่คือทุกพรรคต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหาภายในพรรค และนำพรรคเดินไปข้างหน้า ซึ่งช่วงที่ผ่านมาก็ถือว่ามีภาพบวก มีภาพดีออกไปมาก และมีผลสัมฤทธิ์ที่เป็นเรื่องที่ดีออกไปหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลงานในการทำงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ดังนั้น พิสูจน์ว่าพรรคประชาธิปัตย์ยุคนี้ทำได้ไวทำได้จริง และประชาธิปัตย์ก้าวไปข้างหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มี.ค. 65)
Tags: จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, พรรคการเมือง, พรรคประชาธิปัตย์, ราเมศ รัตนะเชวง