ญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมการคว่ำบาตรรัสเซียตามสหรัฐ โดยมาตรการที่ญี่ปุ่นจะนำมาใช้นั้น จะครอบคลุมถึงการห้ามส่งออกชิปและสินค้าด้านเทคโนโลยีที่สำคัญ หากประธานาธิบดีวลาดีเมียร์ ปูตินสั่งบุกยูเครน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างหนังสือพิมพ์โยมิอูริว่า การตัดสินใจดังกล่าวของญี่ปุ่นเกิดขึ้นหลังจากที่วิกฤตการณ์ในยุโรปทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้สั่งการให้กองกำลังทหารรัสเซียเข้าประจำการในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน โดยคำสั่งดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากปธน.ปูตินได้ลงนามในกฤษฎีกาเพื่อรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระและความเป็นเอกราชของทั้ง 2 แคว้น
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อห้ามไม่ให้ชาวอเมริกันทำการค้าและการลงทุนกับสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน หลังจากปธน.ปูตินรับรองเอกราชของทั้ง 2 แคว้น
ทั้งนี้ คำสั่งห้ามส่งออกสินค้าประเภทเทคโนโลยีที่ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาอยู่ในขณะนี้ จะครอบคลุมมากกว่ามาตรการที่ญี่ปุ่นเคยใช้ในปี 2557 เมื่อครั้งที่รัสเซียผนวกดินแดนไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังพิจารณาการบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นกับธนาคารของรัสเซีย
แม้ว่าญี่ปุ่นจะไม่ได้เป็นผู้ส่งออกชิปเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ โดยครองสัดส่วนเพียง 10% ในตลาดโลก แต่ญี่ปุ่นยังคงเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เฉพาะด้านรายใหญ่ เช่น ชิปสำหรับรถยนต์และเซนเซอร์ภาพ และยังครองส่วนแบ่งในอุตสาหกรรมด้านอื่น ๆ เช่น อุปกรณ์การผลิตที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
ญี่ปุ่นใช้แนวทางทางการทูตที่ประนีประนอมต่อรัสเซียตลอดช่วงที่ผ่านมา โดยผู้นำญี่ปุ่นได้พยายามกระชับความสัมพันธ์กับปธน.ปูตินเพื่อหวังจะได้คืนเกาะต่าง ๆ ที่รัสเซียยึดครองไปหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนพลังงานด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.พ. 65)
Tags: คว่ำบาตร, ญี่ปุ่น, ยูเครน, รัสเซีย, วิกฤตยูเครน