นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ปัญจวัฒนาพลาสติก (PJW) เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ฉุดภาพรวมธุรกิจและทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมลดลงในช่วงปี 63 ส่งผลให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีการพิจารณาบริหารจัดการเพื่อกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยมีมติอนุมัติปรับโครงสร้างกิจการโดยการโอนกิจการบางส่วน (Partial Business Transfer : PBT) ได้แก่ 1.ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับยานยนต์ 2. ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์พ่นสี 3. ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนที่ใช้เม็ดพลาสติกวิศวกรรมในงานอุตสาหกรรมอื่นๆ รวมถึงชิ้นงานพลาสติกที่ไม่ใช่บรรจุภัณฑ์ และ 4. ผลิตและจำหน่ายแม่พิมพ์ที่ใช้สำหรับกิจการในธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ไปยัง บริษัท พีเจดับเบิ้ลยู ออโต้อีวี จำกัด (PJW AutoEV) (เดิมชื่อ บริษัท พลาสเทค แล็บ จำกัด) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ PJW ถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% ของทุนจดทะเบียน
การปรับโครงสร้างกิจการในครั้งนี้ เพื่อให้บรรลุตามแผนกลยุทธ์ของบริษัทในการบริหารการดำเนินธุรกิจแต่ละประเภทให้ชัดเจน และช่วยให้การบริหารจัดการความเสี่ยงในแต่ละธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสในการขยายและต่อยอดธุรกิจสู่การเติบโตและยั่งยืนในอนาคต รวมถึงยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินกิจการและการบริหารงานของกลุ่มบริษัทฯ
อย่างไรก็ตาม ภายใต้แผนการปรับโครงสร้างกิจการของบริษัทฯ PJW ยังคงประกอบธุรกิจทั่วไป (Operating Company) โดยยังคงเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติก รวมถึงประกอบธุรกิจเข้าลงทุนรวมไปถึงการเข้าร่วมทุนในกิจการอื่น ดังนั้นการโอนกิจการ ให้แก่ PJW AutoEV ดังกล่าว เป็นการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ จึงไม่มีผลกระทบที่มีนัยสำคัญต่อกลุ่มบริษัทแต่อย่างใด
“โดยส่วนตัวเชื่อว่าการปรับโครงการกิจการในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการขยายตัวทางธุรกิจ รวมถึงยังเป็นการเปิดโอกาสในการหาผู้ร่วมทุนหรือพันธมิตรทางธุรกิจเข้ามาเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่ง และยังสามารถเพิ่มขีดการแข่งขันของบริษัท และเพิ่มผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินกิจการและการบริหารงานองค์กรของกลุ่มบริษัทฯ และเป็นการเพิ่มความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจออกจากกัน ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้การบริหารงานองค์กรเกิดความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น”
นายวิวรรธน์ กล่าว
การ Spin off กลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ มายัง PJW AutoEV ถือเป็นการปรับโมเดลธุรกิจ เพื่อสร้างความต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่ยุคการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถ EV เพิ่มมากขึ้น ซึ่ง PJW มีศักยภาพในการผลิตเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและกลุ่มลูกค้าที่บริษัทฯเป็นผู้ผลิตให้ในปัจจุบัน อีกทั้งยังเชื่อว่าเทรนด์การใช้รถ EV ในประเทศไทยสามารถเพิ่มโอกาสการเติบโตให้กับธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ได้อีกมากจากนโยบายการส่งเสริมของภาครัฐที่สนับสนุนให้มีการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า
สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 64 ถือเป็นปีที่ PJW มีความโดดเด่นและมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากยอดขายที่เริ่มฟื้นตัวของกลุ่มบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น ทั้งส่วนของประเทศไทยและประเทศจีน รวมถึงในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ เริ่มมีคำสั่งซื้อชิ้นส่วนยานยนต์ เข้ามาเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ขณะที่เดียวกันบริษัทฯมีการควบคุมต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อลดความสูญเสีย
จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้รวม เท่ากับ 3,086.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 266.96 ล้านบาท คิดเป็น 9.47% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 2,819.8 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 169.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.42 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 47.30% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 115.05 ล้านบาท
สาเหตุที่บริษัทมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากตั้งแต่ต้นปี 64 ยอดขายเริ่มกลับมาฟื้นตัวในระดับเกือบจะเป็นปกติ ประกอบกับบริษัทฯมียอดขายใหม่ของงานนิวโมเดล ในส่วนของยอดขายบรรจุภัณฑ์สำหรับนมและนมเปรี้ยว เข้ามาสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ ขณะที่ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ ยอดขายในประเทศจีน เพิ่มขึ้นกว่า 15%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.พ. 65)
Tags: PJW, ชิ้นส่วนยานยนต์, ปัญจวัฒนาพลาสติก, วิวรรธน์ เหมมณฑารพ, หุ้นไทย