ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกว่า การพุ่งขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐจะเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราวและจะไม่ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในระยะนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะหุ้นไฟเซอร์ที่พุ่งขึ้นกว่า 2%
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,466.24 จุด เพิ่มขึ้น 19.10 จุด หรือ +0.06%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,239.18 จุด เพิ่มขึ้น 19.63 จุด หรือ +0.47%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,020.33 จุด เพิ่มขึ้น 108.58 จุด หรือ +0.78%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ดีดตัวขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.5% และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 5.0% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.7%
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพ.ค.ถูกบิดเบือนจากการเปรียบเทียบกับตัวเลขฐานที่ต่ำผิดปกติในปีที่แล้ว ซึ่งขณะนั้นราคาสินค้าได้ทรุดตัวลงโดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และจากการประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อยังมีสาเหตุจากราคารถยนต์มือสองและรถบรรทุกที่ทะยานขึ้นมากกว่า 7% ซึ่งการเพิ่มขึ้นของราคารถยนต์มือสองมักเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ นักลงทุนคาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเนื่องจากปัจจัยชั่วคราวเช่นนี้ จะไม่ทำให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้ และคาดว่าเฟดจะยังไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในการประชุมวันที่ 15-16 มิ.ย.นี้ด้วย
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพพุ่งขึ้น 1.69% โดยหุ้นไฟเซอร์ พุ่งขึ้น 2.19% หุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส ดีดขึ้น 1% หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน บวก 0.86% หุ้นอิไล อิลลี่ (Eli Lilly) พุ่งขึ้น 3.29% หุ้นไมแลน เอ็นวี พุ่งขึ้น 2.2%
หุ้นไฟเซอร์ได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐวางแผนบริจาควัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์จำนวน 500 ล้านโดสให้ประเทศต่างๆ เกือบ 100 ประเทศในช่วงสองปีข้างหน้า โดยวัคซีนดังกล่าวจะบริจาคผ่านทางโครงการ COVAX ขององค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อส่งมอบให้กับประเทศที่มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ปรับตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐชะลอตัวลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 1.44% หุ้นแอมะซอน พุ่งขึ้น 2.09% หุ้นอัลฟาเบท บวก 1.13% หุ้นเฟซบุ๊ก ปรับตัวขึ้น 0.67%
อย่างไรก็ดี การชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐได้ฉุดหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 2.36% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลง 1.44% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ลดลง 1.07% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ดิ่งลง 1.56%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีเปิดเผยล่าสุดและมีผลต่อภาวะการซื้อขายในตลาดเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 376,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบเกือบ 15 เดือน หรือนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ก็ยังคงสูงกว่าระดับ 230,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 มิ.ย. 64)
Tags: Nasdaq, S&P500, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก