ผู้นำภาคธุรกิจและการศึกษาจากองค์กรของสหรัฐและยุโรปเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นยกเลิกคำสั่งห้ามเดินทางเข้าประเทศสำหรับผู้ที่เดินทางมาทำธุรกิจและนักวิชาการ พร้อมเตือนว่าคำสั่งห้ามนี้ไม่เพียงส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่น แต่ยังเสี่ยงต่อการสูญเสียบุคลากรที่มีความสามารถในอนาคต
นายคริสโตเฟอร์ ลาเฟลอร์ ที่ปรึกษาประจำสภาหอการค้าอเมริกันในญี่ปุ่น ซึ่งเข้าร่วมการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทางออนไลน์ กล่าวว่า คำสั่งห้ามเข้าประเทศก่อให้เกิดต้นทุนทางเศรษฐกิจและมนุษย์เพิ่มขึ้น และยังขัดขวางความพยายามในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
นายลาเฟลอร์ระบุว่า ขณะที่ญี่ปุ่นตั้งเป้าดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเพิ่มมากขึ้น แต่คำสั่งห้ามนี้กลับส่งผลกระทบทางลบต่อการตัดสินใจลงทุนของพวกเขา อีกทั้งยังเรียกร้องให้ญี่ปุ่นดำเนินนโยบายตามหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งอนุญาตให้ผู้ที่เดินทางมาทำธุรกิจและนักวิชาการที่ฉีดวัคซีนแล้วสามารถเข้าประเทศได้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ญี่ปุ่นได้สั่งห้ามนักเดินทางต่างชาติเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
ทั้งนี้ นายไมเคิล มอร์เชก ประธานสภาธุรกิจยุโรปในญี่ปุ่นแถลงต่อสื่อมวลชนว่า การที่สื่อญี่ปุ่นไม่ช่วยตีข่าวเกี่ยวกับเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากคำสั่งห้ามเข้าประเทศ เป็นส่วนหนึ่งที่รัฐบาลญี่ปุ่นไม่เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.พ. 65)
Tags: คริสโตเฟอร์ ลาเฟลอร์, ญี่ปุ่น, ยุโรป, สหรัฐ, เดินทางเข้าประเทศ, ไมเคิล มอร์เชก