รัฐวิกตอเรียพบติดโควิดพุ่ง หลังให้เด็กมาเรียนที่โรงเรียน

รัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียพบนักเรียนหลายพันคนมีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นบวก หลังกลับมาเรียนที่โรงเรียน ขณะที่รัฐบาลของรัฐวิกตอเรียยังไม่ได้หาข้อสรุปว่าจะขยายการตรวจหาเชื้อเพื่อเฝ้าระวังโรคในโรงเรียนต่อไปหรือไม่

นายเจมส์ เมอร์ลิโน รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการของรัฐวิกตอเรียระบุว่า มีนักเรียน 2,368 ราย และเจ้าหน้าที่ในโรงเรียน 125 ราย ที่มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวกในวันจันทร์ (7 ก.พ.) ส่งผลให้มีนักเรียนติดเชื้อ 7,046 ราย และเจ้าหน้าที่ติดเชื้อ 925 ราย นับตั้งแต่โรงเรียนเปิดทำการเรียนการสอนอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

แม้จะพบการติดเชื้อ แต่ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งให้โรงเรียนกลับไปจัดการเรียนการสอนทางออนไลน์ โดยนายเมอร์ลิโนชี้แจงว่า คำแนะนำให้ตรวจแอนติเจนแบบรู้ผลเร็ว 2 ครั้งต่อสัปดาห์ในปัจจุบัน ได้สร้างความมั่นใจและความสบายใจแก่ทุกคนในโรงเรียน

“เมื่อตรวจหาเชื้อเพื่อเฝ้าระวังโรค ก็ย่อมพบผู้ติดเชื้อ ซึ่งทำให้เราแยกตัวผู้ป่วยได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งจะทำให้จำนวนผู้ป่วยโดยรวมลดลงและหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้” เมอร์ลิโนกล่าว

ขณะเดียวกัน รัฐวิกตอเรียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 9,785 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้ากว่า 1,500 ราย และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 20 ราย ในวันอังคาร (8 ก.พ.)

ทั้งนี้ แผนการเปิดเรียนที่โรงเรียนในรัฐวิกตอเรีย กำหนดให้มีการเฝ้าระวังใน 4 สัปดาห์แรกของภาคเรียนที่ 1 โดยรัฐบาลของรัฐฯ ยังไม่มีมติขยายเวลาแผนดังกล่าว โดยจะทบทวนสถานการณ์อย่างทันท่วงทีและแจ้งให้ทราบหากมีการเปลี่ยนแปลง

อย่างไรก็ดี นายแดเนียล แอนดรูว์ ผู้ว่าการรัฐวิกตอเรีย ประกาศว่าโครงการตรวจโรคโควิด-19 ของโรงเรียน จะขยายให้ครอบคลุมเด็กอายุ 3-5 ปี ในสถานดูแลเด็กปฐมวัยด้วย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อีกสองสัปดาห์ข้างหน้าจะมีการส่งมอบชุดทดสอบแอนติเจนแบบรู้ผลเร็ว 1.6 ล้านชุด โดยเริ่มจากระดับอนุบาลก่อน ต่อจากนั้นจะเป็นระดับปฐมวัย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.พ. 65)

Tags: , , , , ,