สถาบันปีเตอร์สันเพื่อเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศของสหรัฐเปิดเผยผลการวิเคราะห์ในวันอังคาร (8 ก.พ.) ว่า จีนไม่ได้ซื้อสินค้าสหรัฐตามข้อตกลงการค้าระดับทวิภาคีที่ลงนามในปี 2563 ซึ่งตอกย้ำถึงความล้มเหลวของข้อตกลงที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐชื่นชมว่าเป็นข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์
ทั้งนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า จีนได้ตกลงซื้อสินค้าและบริการสำคัญของสหรัฐเพิ่มอย่างน้อย 2 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2563 และ 2564 เมื่อเทียบกับระดับปี 2560 ซึ่งหมายความว่าจีน ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลกจะซื้อสินค้าจากสหรัฐรวมทั้งสิ้น 5.024 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 2 ปี
แต่สถาบันปีเตอร์สันระบุว่า การส่งออกสินค้าและบริการจากสหรัฐสู่จีนในช่วง 2 ปีดังกล่าวอยู่ที่ 2.888 แสนล้านดอลลาร์เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายมากกว่า 2.13 แสนล้านดอลลาร์
“สรุปแล้ว จีนซื้อสินค้าสหรัฐเพียง 57% ของพันธสัญญาที่ให้ไว้ในข้อตกลงการค้า ข้อตกลงฉบับนี้ถือว่าประสบความล้มเหลว” นายชาด บาวน์ เจ้าหน้าที่อาวุโสของสถาบันปีเตอร์สันระบุในรายงานฉบับดังกล่าว
บทวิเคราะห์ฉบับนี้สนับสนุนคำยืนยันของคณะบริหารภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดนว่า จีนมิได้ทำตามพันธสัญญาการซื้อสินค้าสหรัฐภายใต้ข้อตกลงการค้า
“จีนมีภาระหน้าที่ในการปฏิบัติตามพันธสัญญา” และเจ้าหน้าที่การค้าจะ “ตัดสินใจเกี่ยวกับการดำเนินการขั้นต่อไป” นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.พ. 65)
Tags: ข้อตกลงการค้า, จีน, ส่งออกสินค้า, สหรัฐ, โดนัลด์ ทรัมป์