องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยรายงานคาดการณ์ว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ย่อย BA.2 ของโอมิครอนจะแพร่ระบาดไปทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าสายพันธุ์ย่อยนี้สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำในผู้ที่เคยติดเชื้อโอมิครอนมาก่อนหรือไม่
แพทย์หญิงมาเรีย ฟาน เคิร์กโฮฟ หัวหน้าแผนกโรคโควิด-19 ของ WHO ระบุว่า ทางองค์การฯกำลังเฝ้าระวังสายพันธุ์ย่อย 4 สายพันธุ์ของโอมิครอน โดยเธอคาดว่า สายพันธุ์ย่อย BA.2 ซึ่งแพร่กระจายได้ง่ายกว่าสายพันธุ์หลักของโอมิครอน จะกลายเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดทั่วไปมากขึ้น
นอกจากนี้ แพทย์หญิงมาเรียยังระบุว่า WHO กำลังเฝ้าระวัง BA.2 เพื่อดูว่าสายพันธุ์ย่อยนี้ส่งผลให้เกิดยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโอมิครอนไปแล้วหรือไม่
แพทย์หญิงมาเรียเน้นย้ำว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่าสายพันธุ์ย่อยแต่ละสายพันธุ์ก่อให้เกิดอาการที่มีความรุนแรงต่างกัน แม้การวิจัยในประเด็นนี้จะยังไม่สรุปผล และโดยทั่วไปแล้ว สายพันธุ์โอมิครอนไม่ก่อให้เกิดอาการรุนแรงเท่ากับสายพันธุ์อัลฟาหรือเดลตา เพียงแต่แพร่กระจายได้เร็วกว่า
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานผลวิจัยของเดนมาร์กก่อนหน้านี้ ซึ่งระบุว่า สายพันธุ์ย่อย BA.2 ของโอมิครอนแพร่กระจายได้ง่ายกว่าสายพันธุ์หลักราว 1.5 เท่า ทั้งยังสามารถทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสและเข็มบูสเตอร์ติดเชื้อได้ อย่างไรก็ดี ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสจะมีความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน
แพทย์หญิงมาเรียกล่าวว่า วัคซีนยังคงมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการล้มป่วยหนักและการเสียชีวิตจากการติดเชื้อ แม้ว่าจะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้ทั้งหมดก็ตาม โดยเธอได้แนะนำให้ทุกคนเร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนและสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในอาคาร
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.พ. 65)
Tags: COVID-19, WHO, โควิด-19, โอมิครอน