มาร์เก็ตวอชรายงานว่า รัฐแคลิฟอร์เนียเตรียมยุติมาตรการบังคับให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ภายในอาคาร ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. เป็นต้นไป หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี สำนักงานสาธารณสุขรัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่า ผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนจะยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในอาคารต่อไป ส่วนเมืองต่าง ๆ สามารถเลือกได้ว่าจะบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยต่อไปหรือไม่ โดยลอสแองเจลิสระบุว่า จะใช้มาตรการสวมหน้ากากอนามัยไปจนกว่าตัวเลขชี้วัดทางสาธารณสุขบางอย่าง เช่น อัตราผู้ป่วยในโรงพยาบาล จะลดลงตามเกณฑ์
นอกจากนี้ สำนักงานยังระบุว่า ตามระเบียบของรัฐบาลกลาง ประชาชนยังจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่อใช้บริการขนส่งสาธารณะ รวมถึงเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลจนถึงมัธยม โดยจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า
ทางด้านนายแพทย์โทมัส เจ. อารากอน ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขรัฐแคลิฟอร์เนีย เผยในแถลงการณ์ว่า “ยอดผู้ติดเชื้อในรัฐแคลิฟอร์เนียเริ่มลดลง ขณะที่วัคซีนสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีใกล้จะอนุมัติใช้งานแล้ว นอกจากนี้ ประชาชนยังเข้าถึงการรักษาโควิด-19 ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย จากการที่สถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น เราจึงแก้ไขมาตรการป้องกันโควิด-19 ให้สอดคล้องกัน พร้อมกับเดินหน้าจัดทำแผนการระยะยาวสำหรับรัฐแคลิฟอร์เนียต่อไป”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.พ. 65)
Tags: COVID-19, หน้ากากอนามัย, แคลิฟอร์เนีย, โควิด-19