นายนันทิยะ ดารกานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วินเนอร์ยี่ เมดิคอล (WINMED) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 65 โต 50% จากปีก่อน และ รักษาอัตรากำไรสุทธิ 9-11% โดยที่จะมีปัจจัยหนุนมาจากการฟื้นตัวของธุรกิจหลักที่จะฟื้นตัวขึ้น หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศคลี่คลายลง แม้ว่าจะมีการติดเชื้อเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง แต่มองว่าไม่รุนแรงและอยู่ในภาวะที่สามารถควบคุมการแพร่รบาดได้ ทำให้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้น
โดยเฉพาะการเข้ามาใช้บริการในโรงพยาบาลที่เริ่มกลับมามากขึ้น ส่งผลบวกต่อธุรกิจหลักของบริษัท โดยเฉพาะการจัดจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ในกลุ่มดูแลสุขภาพสตรี ผลิตภัณฑ์ธนาคารโลหิต ผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยของโลหิต ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีเซลล์บำบัด ทำให้ทางโรงพยาบาลมีการสั่งซื้อสินค้าเข้ามาเพิ่มมากขึ้น รวมถึงยังมีกลุ่มธุรกิจให้บริการห้องปฏิบัติการวินิจฉัยทางการแพทย์เข้ามาเพิ่ม ช่วยเสริมศักยภาพการเติบโต สร้างรายได้ให้บริษัท
กลยุทธ์ของบริษัทในปี 65 ในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพสตรี ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐที่เล็งเห็นความสำคัญของการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้น เช่น โครงการของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ตรวจหาเชื้อ HPV ซึ่งบริษัทออกผลิตภัณฑ์ชุดเก็บเซลล์จากช่องคลอดด้วยตนเองเพื่อส่งตรวจหาเชื้อไวรัส HPV (HPV Self-collect) เพิ่มประสิทธิภาพในการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ช่วยลดอัตราการเสียชีวิต พร้อมเร่งเปิดให้บริการห้องปฏิบัติการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ผ่านชุดเก็บเซลล์จากช่องคลอดด้วยตนเอง (Self-Collect) คาดสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 1/65 และคาดว่าจะมีจำนวนเคสใช้บริการภายในปีนี้ถึง 60,000 เคส
กลุ่มผลิตภัณฑ์ธนาคารโลหิต และกลุ่มผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยทางโลหิต มีแนวโน้มดี จากการกระจายฉีดวัคซีนทั่วประเทศ ช่วยสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยในการใช้บริการมากขึ้น อีกทั้งมีการปรับกลยุทธ์เพิ่มบริการหน่วยบริการเคลื่อนที่ สร้างรายได้ทดแทนจากผลกระทบสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ตอบรับแนวคิดวิถีชีวิตใหม่ หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19
ส่วนกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีเซลล์บำบัด มีแนวโน้มที่ดี สืบเนื่องมาจากผลการรักษาของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในโครงการวิจัยที่ใช้ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของบริษัท มีผลการรักษาที่ดี แม้จะอยู่ในมะเร็งระยะที่ 4 จึงทำให้มีผู้ป่วยเข้าร่วมโครงการรักษาเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังมีโครงการรักษามะเร็งประเภทอื่น นอกเหนือจากมะเร็งเต้านม ส่งผลให้ความต้องการในการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการลงทุนสร้างห้องปฏิบัติการที่ครอบคลุมการเตรียมผลิตภัณฑ์เซลล์เพื่อการรักษาด้วยวิธีเซลล์-ภูมิคุ้มกันบำบัด (Cell Therapy) คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงครึ่งปีหลังปี 65 และยังสร้างความร่วมมือกับสถาบันการแพทย์ชั้นนำ เพิ่มการเข้าถึงทางเลือกในการรักษามะเร็งด้วยวิธีภูมิคุ้มกันบำบัด ทำให้บริษัทมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
และบริษัทมีแผนออกผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเพื่อสุขภาพ กลุ่มตรวจคัดกรองและยืนยันผลโควิด-19 และการรักษาครบวงจร ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน (ATK) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และสำหรับตรวจคัดกรองด้วยตนเอง ทางโพรงจมูกและน้ำลายที่มีความแม่นยำสูง
อีกทั้งเตรียมจัดหาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ที่มีคุณภาพสูงเข้ามาเพิ่มเติมต่อเนื่อง รองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น พร้อมต่อยอดธุรกิจให้บริการห้องปฏิบัติการวินิจฉัยทางการแพทย์ บริษัทเปิดให้บริการ “WINMED LAB” ห้องปฏิบัติการมาตรฐานการตรวจยืนยันระดับโมเลกุลหาสารพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ รวมถึงสายพันธ์โอมิครอน โดยระบบ RT-PCR และ TMA (Transcription Mediated Amplification) ซึ่งเป็นคลินิกเทคนิคการแพทย์แห่งเดียวในประเทศไทยที่ให้บริการแบบสองระบบ
นอกจากนั้นยังให้บริการตรวจแบบ Fast Track สามารถรู้ผลตรวจรวดเร็วภายใน 3 ชั่วโมง และหน่วยบริการตรวจคัดกรองโควิด-19 นอกสถานที่ โดยเริ่มให้บริการแล้วตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/64 โดยเตรียมขยายบริการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ระบบ Drive Thru โดยบุคลากรทางการแพทย์เข้ามาเพิ่ม สามารถให้บริการได้ช่วงไตรมาส 1/65
และยังมีการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันยุง โดยจะมีแผนเปิดตัวในชช่วงไตรมาส 4/65
“WINMED ยังคงสามารถดำเนินกิจการบนโครงสร้างธุรกิจที่รองรับความเปลี่ยนแปลงได้ในทุกสถานการณ์ แม้กระทั้งในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ถือเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการตรวจและคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 และเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ความมั่นใจใช้บริการทางการแพทย์ในโรงพยาบาลกลับมามากขึ้น จะส่งผลดีต่อกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆของบริษัท จึงมั่นใจว่าการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ จะสามารถสร้างการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ โดยเป้าหมายการเติบโตปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 50% รักษาอัตรากำไรสุทธิ 9-11%”
นายนันทิยะ กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอการรับรู้รายได้รวม 111 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ฯในช่วงปี 65-66 โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทจะมาจากหน่วยงานภาครัฐสูงถึง 65% เนื่องจากโรงพยาบาลและหน่วยงานภาครัฐมีงบประมาณที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆเข้ามาต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มลูกค้าโรงพยาบาลเอกชนมองว่าจะกลับมามากขึ้น หลังจากที่มีลูกค้ากลับมาใช้บริการเพิ่มขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงชัดเจน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.พ. 65)
Tags: WINMED, นันทิยะ ดารกานนท์, วินเนอร์ยี่ เมดิคอล, หุ้นไทย