ASW ชู WIND OF CHANCE เปิด 7 โครงการใหม่กว่า 1.24 หมื่นลบ. เล็งรุกธุรกิจใหม่

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสเซทไวส์ (ASW) เปิดเผยว่า ปี 65 บริษัทก้าวสู่การดำเนินธุรกิจปีที่ 18 เปรียบเสมือนเรือที่กางใบเต็มที่พร้อมออกไปคว้าโอกาสใหม่ ในช่วงเวลาที่มีแรงลมส่งธุรกิจทุกทิศทาง โดยยุทธศาสตร์สำคัญที่บริษัทเตรียมพร้อมไว้ในปีนี้คือ “WIND OF CHANCE” ต่อยอดความสุขของทุกการอยู่อาศัย พร้อมเปิดรับทุกโอกาสทางธุรกิจ

“ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในปีนี้ ตามทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดยมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นแรงลมส่ง นอกจากนี้คาดว่าจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อภาคอสังหาฯ ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง และด้วยบรรยากาศแบบนี้ แอสเซทไวส์ มองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการ คว้าโอกาสขยายธุรกิจเชิงรุกด้วยการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ และเชื่อมต่อความสุขสู่ทุกกลุ่มลูกค้าได้อย่างแท้จริง”

ในปี 65 ASW จะเปิดตัวโครงการใหม่ 7 โครงการ มูลค่ารวม 12,400 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียมฯ 5 โครงการ และเพิ่มพอร์ตบ้านแนวราบอีก 2 โครงการ โดยจะแบ่งเป็นสัดส่วนคอนโดมิเนียมฯ 60% และบ้านแนวราบ 40%

ล่าสุด ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาบริษัทเริ่มส่งสัญญาณเชิงบวกเพื่อสะท้อนการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยประกาศจับมือพันธมิตรยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น บริษัท ทาคาระ เลเบ็น จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาโครงการ “แอทโมซ บางนา” มูลค่าโครงการกว่า 2,200 ล้านบาท และเสริมแกร่งให้พอร์ทด้วยการเข้าซื้อคอนโดมิเนียมบนทำเลทองใจกลางรัชดา-สุทธิสาร อย่าง โครงการ แม็กซี่ ไพร์ม รัชดา-สุทธิสาร จากบริษัท แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน จำกัด

และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ASW ร่วมเป็นพันธมิตรในการเปิดตัวเหรียญ Popcoin ซึ่งเป็น Smart Marketing Platform Entertainmerce ที่เกิดจากความร่วมมือของบริษัทชั้นนำอย่าง บมจ.อาร์เอส (RS), บริษัท โฟร์ท แอปเปิ้ล จำกัด, บริษัท ฟิวเจอร์คอมเพเทเร่ จำกัด สะท้อนมุมมองความมุ่งมั่นในการทำธุรกิจและการต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ

นอกจากนี้ยังพร้อมมุ่งสู่เทรนด์การดูแลสุขภาพผ่านช่องทางดิจิทัล หรือ Digital Health ด้วยการร่วมมือกับ Doctor A to Z ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีบริการด้านสุขภาพออนไลน์ เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพของลูกบ้านด้วย “Health Station” Facility ที่ออกแบบเพื่อการดูแลสุขภาพครบวงจร พร้อมเชื่อมต่อแพลตฟอร์มเทคโนโลยีบริการด้านสุขภาพออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยในยุค New Normal เปิดให้บริการแพลตฟอร์มดังกล่าวไปแล้วในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา

ASW ยังได้จับมือกับ บริษัท บางกอก เฮลท์แคร์เซอร์วิส จำกัด (BHS) ผู้ดำเนินธุรกิจดูแลผู้สูงอายุและเวชศาสตร์ฟื้นฟู รวมถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่องในด้านผู้สูงอายุทั้งหมด เพื่อเปิดศูนย์ REHAB ฟื้นฟูสภาพร่างกาย ซึ่งเป็นศูนย์บริการประเมิน รักษา และ ฟื้นฟูสมรรถภาพจากผู้เชี่ยวชาญ ที่จะทำให้ลูกค้าได้รับบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ และสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเร็วๆนี้

“จากความมุ่งมั่นขยายธุรกิจอสังหาฯ ที่เราเชี่ยวชาญอยู่แล้วอย่างไม่หยุดยั้ง ประกอบกับการมุ่งมั่นค้นหาโอกาสในธุรกิจใหม่ๆ ทำให้เราเชื่อว่า ปีนี้จะเป็นอีกปีที่ท้าทายในการดำเนินธุรกิจของแอสเซทไวส์ โดยเรามุ่งมั่นไต่ระดับความแข็งแกร่งขององค์กร ด้วยเป้าหมายยอดขาย 10,000 ล้านบาท ซึ่งเรามั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างแน่นอน”

นายกรมเชษฐ์ กล่าว

ขณะที่ภาพรวม ปี 64 ที่ผ่านมา ASW พัฒนาผลงานคุณภาพด้วยการดำเนินงานที่ได้มาตรฐานในระดับบริษัทมหาชน จนทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดย ณ สิ้นปี 64 บริษัทพัฒนาโครงการไปรวม 38 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 38,000 ล้านบาท มีทั้งโครงการสร้างเสร็จและส่งมอบเป็นที่เรียบร้อย 29 โครงการ และมีโครงการที่กำลังเปิดขายและพัฒนาอยู่ จำนวน 9 โครงการ โดยปัจจุบันบริษัทมียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 7,338 ล้านบาท

สำหรับ 7 โครงการใหม่ปี 65 ของ ASW

  • 5 โครงการคอนโดมิเนียมฯ มูลค่าโครงการรวม 7,550 ล้านบาท ได้แก่

– โครงการ แอทโมซ คาแนล รังสิต(Atmoz Kanaal Rangsit) คอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ทใจกลางเมืองรังสิต ติดถนนใหญ่ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีรังสิต มูลค่าโครงการ 1,650 ล้านบาท แนวคิด “A new life destination ชีวิตดี…ชีวิตริมน้ำ” ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท กำหนดเปิดพรีเซลล์ ไตรมาสแรกของปีนี้

– โครงการ แอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช (Atmoz Oasis Onnut) คอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ทใจกลางอ่อนนุช ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีนุช เพียง 450 เมตร มูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท คอนเซ็ปต์ “สุขโดย…ธรรมชาติ” ราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท กำหนดเปิดพรีเซลล์ ไตรมาสแรกของปีนี้

– โครงการ แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี (Atmoz Flow Minburi) คอนโดมิเนียม The most leisure condo ทำเลศักยภาพใจกลางมีนบุรี ถือว่าเป็น Center of Eastern CBD ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญและใกล้จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีส้ม มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 1.xx ล้านบาท

– โครงการ แอทโมซ พอร์เทรต ศรีสมาน (Atmoz Portrait Srisaman) คอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ทติดถนนใหญ่ ตรงข้ามโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ศรีสมาน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยาย สถานีเมืองทองธานี มูลค่าโครงการ 1,150 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 1.XX ล้านบาท

– โครงการ เคฟ ซีด เกษตร (Kave Seed Kaset) แคมปัสคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ติดรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 1.XX ล้านบาท

  • 2 โครงการบ้าน มูลค่าโครงการรวม 4,850 ล้านบาท ได้แก่

– โครงการ เอสต้า รังสิต คลอง 2 (Esta Rangsit Khlong 2) บ้านเดี่ยวแห่งใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟ 153 ยูนิต ใจกลางย่านรังสิต คลอง 2 มาพร้อมดีไซน์การออกแบบ Conventional System ที่แข็งแรงทนทาน และ Club house ขนาดใหญ่ มูลค่าโครงการ 680 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 3.XX ล้านบาท

– โครงการ ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา (THE HONOR Yothinpattana) บ้านเดี่ยวสุดหรู ระดับ Super Luxury ตั้งอยู่บนถนนโยธินพัฒนา ที่มีความเป็นส่วนตัว ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน ภายใต้แนวคิด The Residentail Club บ้านหรู 3 ชั้น สไตล์ Modern Tropocal พร้อม Private Pool villa ทุกหลัง เพียบพร้อมไปด้วย Social Club & Resident’s Club มูลค่าโครงการ 4,170 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 29 ล้านบาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.พ. 65)

Tags: , , , , ,