ดร.นิคซี กูเมเด-โมเอเลตซี นักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (3 ก.พ.) ถึงรายงานการตรวจพบสายพันธุ์ย่อย BA.2 ของไวรัสโอมิครอนใน 5 ประเทศในทวีปแอฟริกา โดยเธอระบุเสริมว่า WHO มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับรายงานดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่า อาจจะตรวจไม่พบสายพันธุ์ย่อย BA.2 ในตัวอย่างที่นำมาตรวจหาไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานข้อมูลจาก WHO ระบุว่า สายพันธุ์ย่อย BA.2 เริ่มเข้ามาแพร่ระบาดแทนสายพันธุ์หลัก BA.1 ของไวรัสโอมิครอนในหลายประเทศ เช่น เดนมาร์ก ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานว่าสองสายพันธุ์นี้ส่งผลให้เกิดความรุนแรงของโรคที่แตกต่างกัน
“มีการพบสายพันธุ์ย่อย BA.2 ในบอตสวานา, เคนยา, มาลาวี, เซเนกัล และแอฟริกาใต้” ดร.นิคซี กูเมเด-โมเอเลตซีระบุในการแถลงข่าว และเสริมว่า ขณะนี้ WHO มีความวิตกกังวลอย่างมาก เนื่องจากการตรวจ S-Gene Target Failure ซึ่งใช้ตรวจหาโอมิครอนสายพันธุ์หลักนั้น มักจะตรวจไม่พบเชื้อสายพันธุ์ย่อย BA.2 จึงทำให้ตรวจสอบได้ยากขึ้น
ดร.กูเมเด-โมเอเลตซีกล่าวว่า WHO กำลังร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับห้องทดลองต่าง ๆ เพื่อขอให้ส่งตัวอย่างที่พบว่าไม่ใช่โอมิครอนกลับมาให้ WHO ตรวจวิเคราะห์อีกครั้ง เพื่อให้สามารถบ่งชี้ถึงการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ย่อย BA.2 ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.พ. 65)
Tags: COVID-19, lifestyle, WHO, องค์การอนามัยโลก, แอฟริกา, โควิด-19, โอมิครอน