นายปัญญา บุญญาภิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บีจิสติกส์ (B) เปิดเผยว่า บริษัทได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ เพื่อขอเพิ่มเติมวัตถุประสงค์การดำเนินธุรกิจของบริษัทอีโคลด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของ B กับ บมจ.เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ (NRF) จากเดิมบริษัทร่วมทุนดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ในดำเนินธุรกิจด้านขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain Logistics) โดยขอเพิ่มเติมวัตถุประสงค์เพิ่มเติมเข้าไปคือ การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งครอบคลุมถึงการขุด ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล
การที่บริษัทร่วมทุนของ B ให้ความสนใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เนื่องจากบริษัทได้เล็งเห็นถึงการเติบโตของคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจและผลการดำเนินงานในอนาคต
ทั้งนี้ การที่ B ได้ตัดสินใจร่วมทุนกับ NRF เนื่องจาก NRF ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับด้าน Plant-Based Food และมีความต้องการใช้ระบบการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain Logistics ) เพื่อช่วยควบคุมและรักษาคุณภาพของวัตถุดิบ หรือสินค้าเกี่ยวกับอาหารให้คงคุณภาพก่อนขนส่งถึงผู้บริโภค และจะรองรับความต้องการของกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจเกี่ยวกับอาหารและธุรกิจของ NRF ขณะที่ B ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่งอยู่แล้ว เห็นว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ และ ความต้องการใช้บริการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงเล็งเห็นถึงโอกาสและความสามารถในการเติบโตและสร้างรายได้ในอนาคต
“ธุรกิจขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ ก็มีแนวโน้มการเติบโตสูง ขณะเดียวกันเราก็เล็งเห็นถึงการเติบโตของคริปโทเคอร์เรนซี ถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจและผลการดำเนินงานในอนาคตของ B”
นายปัญญา กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ม.ค. 65)
Tags: Cryptocurrency, NRF, คริปโทเคอร์เรนซี, บีจิสติกส์, ปัญญา บุญญาภิวัฒน์, สินทรัพย์ดิจิทัล, หุ้นไทย, เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์, โลจิสติกส์