รัฐบาลอังกฤษออกแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษจะร่วมหารือกันเพื่อหาทางเปิดการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างทั้งสองประเทศให้ได้โดยเร็วที่สุด
แถลงการณ์ระบุว่า ปธน.ไบเดนได้เดินทางมาถึงประเทศอังกฤษเมื่อวานนี้ โดยเป็นครั้งแรกที่เขาเดินทางออกนอกสหรัฐนับตั้งแต่ขึ้นรับตำแหน่ง นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนยังมีกำหนดการพบปะกับนายจอห์นสันในวันนี้ที่เมืองคอร์นวอลล์ ก่อนจะเข้าร่วมประชุมของผู้นำประเทศกลุ่ม G7 ในวันพรุ่งนี้
ขณะนี้รัฐบาลสหรัฐภายใต้การบริหารของปธน.ไบเดนอยู่ในระหว่างการจัดตั้งคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญร่วมกับอังกฤษ แคนาดา เม็กซิโก และสหภาพยุโรป เพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุดในการเปิดพรมแดนเพื่อการท่องเที่ยวอีกครั้งอย่างปลอดภัย หลังมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์มานานถึง 15 เดือน
ตัวแทนของสายการบินในอังกฤษและสหรัฐเปิดเผยว่า คาดว่ารัฐบาลสหรัฐจะยังไม่ยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางก่อนถึงวันที่ 4 ก.ค.
ทั้งนี้ สายการบินและธุรกิจอื่นๆ ต่างพยายามกดดันให้รัฐบาลยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางสำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นพลเมืองสหรัฐที่อยู่ในอังกฤษและประเทศ 26 ประเทศในยุโรปที่อยู่ในเขตเชงเก้น รวมถึงไอร์แลนด์, จีน, อินเดีย, แอฟริกาใต้, อิหร่าน และบราซิล
หลายฝ่ายคาดว่าปธน.ไบเดนและนายจอห์นสันจะพูดคุยกันถึง “กฎบัตรแอตแลนติก” (Atlantic Charter) ที่มีต้นแบบมาจากกฎบัตรที่นายกรัฐมนตรีวินสตัน เชอร์ชิล และประธานาธิบดีแฟรงค์ลิน รูสเวลท์ได้เคยร่วมลงนามเมื่อปี 2484 เพื่อกำหนดเป้าหมายด้านต่างๆ ของประเทศในยุคหลังผ่านพ้นสงคราม
ในกฎบัตรฉบับใหม่นี้ มีการกำหนดให้สหรัฐและอังกฤษร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในหลายด้าน เช่น การปกป้องระบอบประชาธิปไตย, การพัฒนาระบบการค้าที่เป็นธรรมและยั่งยืน, การรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์, การแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มิ.ย. 64)
Tags: การเดินทาง, การเดินทางระหว่างประเทศ, ท่องเที่ยว, บอริส จอห์นสัน, ประชุม G7, สหรัฐ, อังกฤษ, เปิดพรมแดน, โจ ไบเดน