นายกฯ สั่งปรับแผนรับมือก่อเหตุป่วนใต้ ติดตามการข่าว-เฝ้าระวังช่วงตรุษจีน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รับทราบรายงานเหตุการณ์คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่องขนาดเล็กบรรจุกระป๋องสเปรย์และกล่องกระดาษ จำนวน 15 จุด 17 ลูก ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการตรงไปยังกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า ให้เร่งตรวจสอบและจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี พร้อมมอบหมายให้นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล และตรวจเยี่ยมประชาชน ชุมชน กิจการร้านค้าบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

ในเบื้องต้น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่พิจารณาได้ว่ากลุ่มคนร้ายพยายามก่อกวน สร้างสถานการณ์เพื่อดึงดูดความสนใจของเจ้าหน้าที่ในกรณีที่มีการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ จ.นราธิวาส ซึ่งการก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ เปลี่ยนแปลงไปจากการก่อเหตุในหลายครั้งที่ผ่านมา ขณะนี้ได้มีการเก็บรวบรวมวัตถุพยาน และภาพจากกล้องวงจรปิด และจะเร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินการทางกฎหมายอย่างเร็วที่สุดต่อไป

“นายกรัฐมนตรีได้กำชับฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ปรับแผนและวางมาตรการรักษาความปลอดภัยทุกพื้นที่อย่างเข้มข้น ในเขตพื้นที่เศรษฐกิจในเมือง และพื้นที่เปราะบางทุกจุด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ ซึ่งจะมีการเฉลิมฉลองและจัดกิจกรรมของคนไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย โดยให้บูรณาการทุกหน่วยงานในระดับพื้นที่ ทั้งฝ่ายปกครอง ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ เพื่อติดตามการข่าว ขยายกลุ่มที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ ทั้งด้านความมั่นคง ยาเสพติด และอาชญากรรม เพื่อเรียกความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อีกครั้ง”

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

พร้อมระบุว่า นายกรัฐมนตรียังได้ประนามการกระทำดังกล่าวว่า เป็นการก่อกวนความสงบ อาจก่อให้เกิดความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น รวมทั้งยังทำลายบรรยากาศทางเศรษฐกิจ และความมั่นคงที่รัฐบาลกำลังดำเนินการไปด้วยดี พร้อมได้สั่งให้มีการรายงานสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ให้นายกรัฐมนตรีทราบอย่างต่อเนื่องด้วย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ม.ค. 65)

Tags: , , , ,