สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 แล้วหลายสิบรายในเกือบครึ่งหนึ่งของสหรัฐ ซึ่งสายพันธุ์ย่อยดังกล่าวนั้น สามารถแพร่ระบาดได้มากกว่าสายพันธุ์โอมิครอนดั้งเดิมหรือ BA.1
ฐานข้อมูลทั่วโลกซึ่งติดตามสายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ระบุว่า รัฐต่าง ๆ เกือบครึ่งหนึ่งในสหรัฐได้ยืนยันการตรวจพบไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 และพบผู้ติดเชื้อดังกล่าวอย่างน้อย 127 รายทั่วประเทศในวันศุกร์ (28 ม.ค.)
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยแถลงการณ์ในวันศุกร์ (28 ม.ค.) ว่า แม้สายพันธุ์ BA.2 ได้เพิ่มขึ้นแซงหน้าโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิมในบางประเทศ แต่ในสหรัฐนั้น พบว่าสายพันธุ์ BA.2 ยังคงแพร่ระบาดอยู่ในระดับต่ำ
นอกจากนี้ คริสเตน นอร์ดลันด์ โฆษกของ CDC ยังระบุด้วยว่า “ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า สายพันธุ์ BA.2 นั้นมีความรุนแรงมากกว่าสายพันธุ์ BA.1”
ด้านสถาบันเซรั่มสเตเทนส์ (Statens Serum Institut) ของเดนมาร์กระบุว่า ไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 นั้น แพร่ระบาดได้มากกว่าสายพันธุ์เดิมหรือ BA.1 อยู่ราว 1.5 เท่า
โทรลส์ ลีลเบค ประธานคณะกรรมการด้านการเฝ้าระวังสายพันธุ์ไวรัสโควิดของเดนมาร์กเปิดเผยว่า สายพันธุ์ย่อย BA.2 ได้แซงหน้าโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิมจนกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในเดนมาร์กแล้วภายในช่วง 2-3 สัปดาห์
ส่วนสำนักงานความปลอดภัยด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักรระบุว่า สายพันธุ์ BA.2 นั้นดูเหมือนไม่ได้ลดประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการแต่อย่างใด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ม.ค. 65)
Tags: COVID-19, โควิด-19, โอมิครอน