ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (26 ม.ค.) โดยหุ้นทุกกลุ่มปิดตลาดในแดนบวก ขณะนักลงทุนรอธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศนโยบายการเงินหลังจากตลาดปิดทำการซื้อขาย
- ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 467.31 จุด เพิ่มขึ้น 7.72 จุด หรือ +1.68%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,981.96 จุด เพิ่มขึ้น 144.00 จุด หรือ +2.11%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,459.39 จุด เพิ่มขึ้น 335.52 จุด หรือ +2.22% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,469.78 จุด เพิ่มขึ้น 98.32 จุด หรือ +1.33%
ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากร่วงลงราว 4% เมื่อวันจันทร์
หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ พุ่งขึ้น 4% ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2563 หลังจากได้รับผลกระทบจากความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน ขณะที่หุ้นกลุ่มเดินทาง และกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นด้วย
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า “ความตึงเครียดทางการเมืองสกัดกั้นการปรับตัวขึ้นของตลาด แต่แรงซื้อโดยรวมได้ช่วยหนุนตลาด”
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นด้วย หลังถูกกดดันก่อนหน้านี้จากการคาดการณ์ว่า เฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
บรรดานักลงทุนรอผลการประชุมเฟดซึ่งจะเปิดเผยหลังตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการไปแล้ว ขณะที่ปรับตัวรับการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมี.ค.นี้ และปรับขึ้นอีก 3 ครั้งภายในสิ้นปีนี้
หุ้นไบออนเทค พุ่งขึ้น 6.3% หลังไบออนเทคและไฟเซอร์เปิดเผยว่า ได้เริ่มการทดลองวัคซีนใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนโดยเฉพาะ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ม.ค. 65)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป