น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าคดีพิพาทระหว่างบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดทเต็ด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บมจ. อัครา รีซอร์สเซส ที่ล่าสุดบริษัทคิงส์เกตฯ แจ้งว่า รัฐบาลไทยอนุมัติสัญญาเช่าพื้นที่ 4 แปลงให้กับบริษัทและเปิดทางให้กลับมาทำเหมืองแร่ชาตรีได้อีกครั้ง หลังจากต้องหยุดดำเนินการไปตั้งแต่ปี 2560 ว่า
การที่รัฐบาลยอมให้บมจ.อัคราฯ กลับมาดำเนินการได้ก่อนที่จะมีคำชี้ขาดจากคณะอนุญาโตตุลาการ เท่ากับเป็นการก้มหน้ายอมรับว่าการใช้มาตรา 44 ปิดเหมืองแร่ทองคำเป็นการกระทำผิดต่อบริษัทคิงส์เกตฯ และถือเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไทยกำลังจะแพ้คดี จึงยอมกลืนน้ำลายตัวเองเพื่อเปิดทางเจรจาให้มีการถอนฟ้อง
โดยที่ผ่านมา คดีเหมืองทองอัคราถูกเลื่อนการออกคำชี้ขาดถึง 3 ครั้ง ล่าสุดถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 31 ม.ค. 65 ทั้งนี้ หากพิจารณาจากกฎของ UNCITRAL ซึ่งเป็นกฎที่คณะอนุญาโตตุลาการใช้ในการตัดสินคดี คาดว่าผลการตัดสินสามารถออกมาได้ 3 แนวทาง คือ
แนวทางที่ 1 คือ ยุติกระบวนการอนุญาโตตุลาการตามที่คู่กรณีทั้งสองฝ่ายร้องขอ หรือเรียกว่าทั้งสองฝ่ายประณีประนอมยอมความกัน ซึ่งอาจเกิดผลใน 2 รูปแบบ คือ รูปแบบแรก บริษัทคิงส์เกตฯ ถอนคดีออกจากกระบวนการอนุญาโตตุลาการ และรูปแบบที่สอง คณะอนุญาโตตุลาการไม่ได้ตัดสินว่าฝ่ายใดถูกหรือผิด แต่จะนำข้อตกลงประณีประนอมยอมความของคู่กรณีมาบันทึกไว้โดยไม่มีความเห็นของอนุญาโตตุลาการประกอบ หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตาม จะสามารถนำบันทึกข้อตกลงนั้นไปบังคับคดีต่อไปได้
แนวทางที่ 2 คือ ออกคำชี้ขาดแค่บางส่วนบางประเด็น แล้วเก็บข้อพิพาทที่เหลือไว้ออกคำชี้ขาดในภายหลัง
แนวทางที่ 3 คือ ออกคำชี้ขาดของข้อพิพาททั้งหมด
“รัฐบาลไทยกำลังมีดีลใหญ่กับบริษัทคิงส์เกต เพื่อแลกกับการถอนฟ้องใช่หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลได้อนุมัติสิทธิสำรวจแร่ทองคำในพื้นที่เกือบ 400,000 ไร่ ให้กับบริษัทคิงส์เกตฯ และยังเร่งอนุมัติสัญญาเช่าอีก 4 แปลงเพื่อเปิดทางให้เหมืองทองอัคราสามารถกลับมาดำเนินการได้ก่อนที่จะมีการตัดสินคดีด้วยซ้ำ ซึ่งอาจเป็นการนำทรัพย์สมบัติชาติไปมัดจำก่อนตามที่ได้เจรจาไว้ และยังมีพื้นที่อีกเกือบ 600,000 ไร่ และสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่รอการอนุมัติเพิ่มเติมหลังจากนี้ ซึ่งมีประเด็นปัญหาว่า การที่รัฐบาลไทยนำทรัพยากรชาติไปใช้ในการเจรจาต่อรองในลักษณะนี้ เป็นการดีลที่เกินกว่าข้อพิพาทหรือไม่ ซึ่งในอนาคตอาจเกิดปัญหาทางกฎหมายได้ จึงขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศช่วยกันจับตาผลการตัดสินคดีเหมืองทองอัคราในวันที่ 31 ม.ค. นี้ และเชิญชวนให้ร่วมกันลงชื่อกับพรรคเพื่อไทย เพื่อคัดค้านการนำสมบัติชาติไปสังเวยความผิดพลาดของพล.อ.ประยุทธ์ อย่าให้ พล.อ.ประยุทธ์ ผลักความผิดของตัวเองมาให้ประชาชน และประเทศชาติต้องรับผิดชอบแทน”
น.ส.จิราพร กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ม.ค. 65)
Tags: จิราพร สินธุไพร, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พรรคเพื่อไทย, เหมืองอัครา