นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กรมประมงร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) กับกรมศุลกากร เรื่องการควบคุม ตรวจสอบสินค้าสัตว์น้ำนำเข้า ส่งออก และนำผ่าน เพื่อยกระดับการดำเนินการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing : IUU Fishing)
ทั้งนี้ กรมประมงเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร จึงมีนโยบายมุ่งให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสัตว์น้ำที่มีอยู่จำกัดให้เกิดความยั่งยืนสูงสุด โดยมีการวางระบบเพื่อบริหารจัดการสัตว์น้ำตลอดสายการผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล นอกจากนี้ ยังได้ร่วมบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และร่วมกันขจัดปัญหา IUU Fishing ของไทยให้หมดไป
สำหรับการลงนามในบันทึกข้อตกลงฉบับดังกล่าว เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกรมประมง กับกรมศุลกากร ในการควบคุม ตรวจสอบสินค้าสัตว์น้ำนำเข้า ส่งออก และนำผ่าน เพื่อแก้ไขปัญหา IUU Fishing และเป็นไปตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560
นอกจากนี้ ยังเป็นการป้องกันมิให้สินค้าสัตว์น้ำที่มาจากการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุมเข้ามาในราชอาณาจักรเข้าสู่ตลาด และกระบวนการผลิต ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาชาติ รวมถึงประเทศคู่ค้าถึงระบบการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ของไทย โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
การดำเนินการกรณีกรมประมงไม่อนุญาตให้นำเข้า ส่งออก และนำผ่านสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ กรณีที่กรมประมงไม่อนุญาตให้นำเข้าสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำด้วยเหตุที่เกี่ยวข้องกับการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ให้กรมประมงแจ้งเหตุผลการไม่อนุญาตให้กรมศุลกากร และผู้ขออนุญาตนำของเข้า ส่งออก หรือนำผ่านทราบ และในกรณีกรมศุลกากรตรวจพบสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีการนำเข้า ส่งออก และนำผ่าน โดยไม่มีใบอนุญาตให้นำเข้าสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ให้กรมศุลกากรแจ้งมายังกรมประมง เพื่อให้กรมประมงและกรมศุลกากรดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
ส่วนการดำเนินการกับของกลาง ให้กรมศุลกากรมีอำนาจในการดำเนินการกับของกลางซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม โดยเป็นไปตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และยึดแนวทางของพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้นำของกลางไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ยากไร้หรือผู้ด้อยโอกาสโดยไม่คิดราคา หรือสั่งให้ทำลายของกลาง พร้อมทั้งแจ้งรายละเอียดการดำเนินการนั้นให้กรมประมงทราบ
สำหรับการร่วมมือในการแก้ไขปัญหาอื่นๆ กรมศุลกากร และกรมประมงแต่ละพื้นที่ร่วมกันตรวจค้นจับกุมสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำที่สงสัยว่าได้มาจากการกระทำความผิดตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 โดยกรมประมงมีหน้าที่หลักในการควบคุม ตรวจสอบสินค้าสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำนำเข้า ส่งออก และนำผ่าน และป้องกันสินค้าสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำจากการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม
“กรมประมง และกรมศุลกากรจะมุ่งมั่น ในการปฏิบัติหน้าที่และกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนและบูรณาการในการร่วมกันแก้ไขปัญหา IUU Fishing ต่อไป โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ” นายสมชวน กล่าว
ด้าน นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า เพื่อให้การทำประมงของประเทศไทยเป็นไปตามมาตรฐานสากล กรมศุลกากรพร้อมร่วมมือกับกรมประมง ในการปฏิบัติหน้าที่และกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อยกระดับการควบคุม ตรวจสอบการนำเข้า ส่งออกและนำผ่าน ซึ่งสินค้าสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สินค้าสัตว์น้ำ เป็นการป้องกันมิให้สัตว์น้ำที่มาจากการทำการประมง โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เข้ามาในราชอาณาจักร ทำให้นานาชาติ และประเทศคู่ค้า ยอมรับในมาตรฐานการตรวจสอบของประเทศไทยและเกิดความยั่งยืนทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ม.ค. 65)
Tags: IUU, กรมประมง, กรมศุลกากร, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, สมชวน รัตนมังคลานนท์