นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานผู้บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex) ประเทศไทย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เดือนก.ค. 63 ที่ Zipmex เข้ามาดำเนินกิจการในประเทศไทยจนถึงขณะนี้ได้รับการตอบรับจากเป็นอย่างดี พบว่าคนไทยให้ความสนใจและก้าวเข้าสู่การลงทุนในทรัพย์ดิจิทัลเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปี 64 นี้ Zipmex มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 450% จากเดือน ม.ค. 64 มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยสูงกว่าปีที่ผ่านมา 4,800% และมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 700,000 คน จาก ม.ค. 64
ไม่เพียงธุรกิจของ Zipmex ในไทยจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ภาพรวมในระดับภูมิภาคทั้งใน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลียก็ขยายตัวในระดับสูง โดย Zipmex คาดว่าเทรดดิ้งวอลุ่มจะเพิ่มขึ้นถึงหมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในไตรมาส 2/65 ปัจจุบันสินทรัพย์ของบริษัท รวมทุกประเทศได้มีการเพิ่มขึ้นถึง 8 เท่าในปีที่ผ่านมา โดยมีจำนวนลูกค้าที่ทำการลงทะเบียนกับ Zipmex กว่า 1.5 ล้านคน คิดเป็นการเติบโตถึง 18 เท่าในปีนี้ ส่งผลให้ Zipmex เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของอาเซียนที่เติบโตแบบก้าวกระโดด นอกจากการลงทุนแล้ว การให้บริการการออมสินทรัพย์ออมดิจิทัลในแพลตฟอร์มของ Zipmex ก็มีการขยายตัวในระดับสูง จากผลิตภัณฑ์ ZipLock ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดถึง 14% ต่อปี
นอกจากมิติทางด้านมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วยระยะเวลาการดำเนินงานเพียง 1 ปีแล้ว จำนวนพนักงาน Zipmex ยังเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 70 คนทั่วโลก เป็น 400 คน โดยประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ Zipmex ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Zipmex มีการเติบโต และได้รับความมั่นใจจากผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก ได้แก่ การมีการระดมทุนจากนักลงทุนระดับสากล ในการระดมทุนรอบ Series B มูลค่า 41 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (เทียบเป็นเงินมูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท) ซึ่งนำโดย B Capital, TNB Aura, Krungsri Finnovate, MindWorks, Jump Capital, V Ventures, Plan B และ MACO ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่บริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ธนาคาร และ Venture Capitalists ระดับโลกได้ร่วมลงทุนในแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยกัน ทำให้ Zipmex มีมูลค่าหลักหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ และกำลังมุ่งไปสู่การเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลักพันล้านเหรียญสหรัฐฯในไม่ช้านี้
การเป็นแพลตฟอร์มที่มีจำนวนเหรียญมากที่สุดในประเทศไทยถึง 59 เหรียญให้เลือกลงทุน และมีค่าธรรมเนียมการเทรดที่ต่ำที่สุดในตลาดประเทศไทย (0.1%) อีกทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถมอบผลตอบแทนหรือโบนัส จากการฝากสินทรัพย์ดิจิทัล อาทิ BTC, ETH, LTC, USDC, USDT และ ZMT สูงสุดถึง 14 % ต่อปี ผ่านโปรแกรมการฝากประจำ ZipLock นับเป็นการส่งเสริมการออมสำหรับนักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลอีกทางหนึ่งด้วย
การได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์จากกระทรวงการคลังประเภทนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) เพิ่มเติมจากใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) และดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยการดำเนินการประเภทนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจะทำให้ Zipmex สามารถเพิ่มสภาพคล่อง (Liquidity) ในกระดานซื้อขายและทำให้สามารถเสนอราคาสินทรัพย์ดิจิทัลที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าของ Zipmex นอกจากนี้ Zipmex ยังได้มีการพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่องทั้งด้านระบบความปลอดภัย การรับรองและยืนยันตัวตนของนักลงทุน หรือ Know-Your-Customer (KYC) ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น รวดเร็วขึ้น
นอกจากนี้ Zipmex ยังคงยืนหยัดที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการเงินดิจิทัลใหม่ ๆ ที่หลากหลาย ตอบสนองต่อทุกไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมวิถีชีวิตแบบสังคมไร้เงินสด รวมถึงพัฒนา และต่อยอดผลิตภัณฑ์และการบริการอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิดหลัก 4 ประการ คือ
1. การลงทุน (Invest) ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนด้านสินทรัพย์ที่เหมาะสม นักลงทุนมีความรู้ความเข้าใจเกียวกับสินทรัพย์ดิจิทัล และเงินสกุลดิจิทัลมากขึ้น
2. การออม (Save) เพื่อเสริมสร้างวินัยทางการเงิน และความั่งคั่งอย่างยั่งยืน ผ่านโปรแกรมการออมต่างๆที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองรูปแบบทางการเงินที่เหมาะสมกับทุกกลุ่มนักลงทุน ทั้งการฝากแบบยืดหยุ่น การฝากประจำ ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนสูงสุดถึง 14% ต่อปี จาก Zipmex Token (ZMT), Bitcoin, Ethereum รวมถึง Stable coins หรือ สินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถคงมูลค่าไว้คงที่ได้ตลอดเวลา เช่น USDT
3. การใช้จ่าย (Pay) ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ผ่านพันธมิตรในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อช่วยเสริมสร้างและส่งเสริมรูปแบบการชำระเงินปรับตัวเข้าสู่โลกแห่งสินทรัพย์ดิจิทัลมาชำระค่าสินค้าและบริการอย่างแพร่หลาย และเข้าถึงง่าย ผ่านการจับมือกับพันธมิตรโดย Zipmex Asia ได้มีการเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้จ่ายจากโปรแกรมการชำระเงินกับวีซ่าเพื่อเพิ่มตัวเลือกให้ลูกค้ามีตัวเลือกในการเข้าถึงร้านค้า 70 ล้านรายในเครือข่ายทั่วโลกของวีซ่า เป็นส่วนหนึ่งของแผนการดำเนินการระดับภูมิภาคของ Zipmex รวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี และความคืบหน้าของสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ผู้ใช้งาน
4. ประสบการณ์เหนือระดับ (Experience) ที่จะช่วยให้นักลงทุน หรือผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟมากมายจาก ZipWorld ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มรูปแบบใหม่ที่ได้รวบรวมสินค้าและบริการอันมีลักษณ์เฉพาะ และกำลังมุ่งหน้าดำเนินการต่อยอดไปยังสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ เช่น NFT และ Metaverse
“ปี 64 ถือเป็นปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับทั้ง Zipmex และตลาดคริปโทฯ ในประเทศไทย คนส่วนใหญ่หันมาให้ความสนใจและได้รับความเชื่อถือมากขึ้น ดังจะเห็นได้ว่าตลอดปีที่ผ่านมามีความร่วมมือหรือข้อตกลง (Partnership) ที่เกิดขึ้นจากกลุ่มทุน องค์กร หรือแม้กระทั่งสถาบันทางการเงินการธนาคารอย่างต่อเนื่อง เราเชื่อว่าตลาดคริปโทฯ ในไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก จากฐานนักลงทุน และลูกค้าขนาดใหญ่ มีกำลังซื้อสูง”
นายเอกลาภ กล่าว
Zipmex ยังได้สร้างนวัตกรรมในการนำเงินดิจิทัลมาซื้อขายสินทรัพย์ได้จริง โดยได้ร่วมกับพันธมิตรทั้งด้านอสังหาริมทรัพย์ ผู้นำเข้ารถยนต์ชั้นนำ และกิจการอื่น ๆ ในการนำเงินดิจิทัลเข้ามาใช้ในการซื้อขายสินค้าและบริการ รวมทั้งสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ ๆ ร่วมกัน ส่งผลให้ในขณะนี้ มีพันธมิตรจากหลากหลายอุตสาหกรรมชั้นนำ ได้แก่ ยานยนต์ อสังหาริมทรัพย์ สถาบันการเงิน เทคโนโลยี สื่อบันเทิง ความงามและสุขภาพ การบริการ เฟอร์นิเจอร์และศิลปะ รวมหลากหลายราย ได้แก่ CMC Group, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, GMM Grammy, Grand Asset Hotel, Major Cineplex, MQDC, The 1, SC Asset, Siam Piwat รวมไปถึงแบรนด์ชั้นนำ เช่น A.G. Cars and Marines, B Autohaus, Cavallino Motors, DJI13, Grand Asset Hotel, Mirage, Omazz, Renazzo Motor, StockRadar, The Brooker Group, Trisara, Wasutha Group และอื่นๆที่กำลังจะตามมา
“ในช่วงที่ผ่านมา ลูกค้าของ Zipmex ได้นำเงินดิจิทัลเข้ามาซื้อขายสินค้าอยางหลากหลาย โดย Zipmex ได้จับมือกับศูนย์การค้า Siam Paragon เพื่อจัด 2 กิจกรรมเพื่อผู้สนใจลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล เปิดประสบการณ์ Crypto Arcade และ Experience Center เพื่อให้ความรู้ ก่อนการลงทุนในคริปโทฯ ที่จะทำให้ทุกคนเข้าถึงคริปโทฯ ได้ง่ายขึ้น โดยการบริการเปิดบัญชีที่มาพร้อมกับ Customer Support ที่จะคอยอำนวยความสะดวกในทุกขั้นตอนการเริ่มการลงทุนในคริปโทฯ และการจัด Workshop เพื่อให้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญZipmex จะขยายความร่วมมือกับพันธมิตร และขยายการใช้เงินดิจิทัลให้มากขึ้น”
นายเอกลาภ กล่าว
ขณะเดียวกันบริษัทจะเร่งขยายจำนวนผู้ใช้เงินดิจิทัลให้มากขึ้น เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพในธุรกิจเงินดิจิทัลสูงมาก เพราะมีประชากรสูงถึง 70 ล้านคน มีกำลังซื้อสูง และมีพื้นฐานความรู้สูง ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยมีผู้เปิดบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลเพียง 1.6-1.7 ล้านคน
สำหรับ ZIPMEX STUDENT AMBASSADOR โครงการค้นหาคนเจนใหม่เพื่อรับโอกาสเรียนรู้ การลงทุนในโลกดิจิทัล และเป็นตัวแทนปฏิบัติภารกิจร่วมกับ Zipmex เพื่อมาเป็น The Face of Crypto and Digital Innovation เพื่อร่วมปฏิบัติภารกิจในมหาวิทยาลัยในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย. 65 โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือก จะได้ร่วมกิจกรรมเสริมสร้างประสบการณ์ เพื่อเป็นบันไดสู่โอกาสที่ดีในอนาคต เป็นต้นว่า ร่วมกับ Zipmex และบริษัทชั้นนำ เพื่อสร้างสรรค์ความคิด และเปิดตัวโครงการที่น่าตื่นเต้นด้วยกัน เรียนรู้อย่างก้าวกระโดดจากเหล่ากูรูในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ร่วมจัดงาน และส่งเสริมกิจกรรม และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อดึงดูดเยาวชนจากทั่วโลกทั้งในโลกปัจจุบันสู่โลกแห่งการเงินดิจิทัล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ม.ค. 65)
Tags: Cryptocurrency, Zipmex, คริปโทเคอร์เรนซี, ซิปเม็กซ์, สินทรัพย์ดิจิทัล, เอกลาภ ยิ้มวิไล