นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) เปิดเผยว่า บริษัทไม่ได้กังวลกรณีที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้มีภาระหนี้กว่า 3 หมื่นล้านบาทมาจากการติดค้างค่าจ้างเดินรถส่วนต่อขยายสายสีเขียว 1 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และส่วนต่อขยายสายสีเขียว 2 ช่วงหมอชิด-คูคต รวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท และระบบติดตั้งการเดินรถราว 2 หมื่นล้านบาท และไม่ได้จำเป็นต้องตั้งสำรอง เนื่องจาก กทม.มีความมั่นคงทางการเงิน และมีสถานะเป็นรัฐ รวมทั้งอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก็สูงกว่าของบริษัท
“กทม.มีเครดิตเรทติ้งส์จากทริสที่ AA+ ส่วน BTS และ BTSC มีเครดิตเรทิติ้งที่ A หรือสูงกว่าเรา 4 ขั้น กทม.เป็นรัฐ รัฐมีกำลังความสามารถจ่าย ยอดหนี้ 3 หมื่นกว่าล้าน ถ้าเป็นเอกชนก็เยอะ แต่เป็นภาครัฐมีความสามารถในการจ่าย ด้วยความแข็งแกร่งของกทม.ที่ AA+ และมี Acting Power ความน่าจะเป็นที่จะไม่จ่าย ผมคิดว่าน้อยมากๆ ก็คิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องตั้งสำรอง เราก็ได้คุยผู้สอบบัญชี กับทริสเรทติ้ง ไม่ได้มีความห่วงใยเรื่องนี้ อยู่ที่กระบวนการการจ่ายจะมาจากการจัดสรรงบประมาณของ กทม.หรือรัฐ “
นายสุรยุทธ กล่าว
สำหรับประเด็นการต่ออายุสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น นายสุรยุทธ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างรอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย หลังจาก กทม.นำเสนอเรื่องผ่านกระทรวงมหาดไทย บริษัทก็เฝ้าติดตามเรื่องกระบวนเข้า ครม.อยู่ ขณะเดียวกันภาระหนี้ที่กทม.กับบริษัทซึ่งเราก็ทวงถามอยู่
นายสุรยุทธ ยังเปิดเผยว่า ในงวดปี 64/65 (เม.ย.64-มี.ค.65) บริษัทได้ปรับกลุ่มธุรกิจเป็น กลุ่ม MOVE ที่จะมาจากระบบขนส่งมวลชน กลุ่ม Mix มาจากธุรกิจมีเดีย (VGI) ที่ผสมผสานธุรกิจวีจีไอแพลตฟอร์มที่มีธุรกิจโฆษณา เพย์เมนต์ และโลจิสติกส์ (VGI) กับ Functional platform ได้แก่ Data analytics Data Marketplace และกลุ่ม Match จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์(U)และการจับคู่พันธมิตร ซึ่ง BTS ก็ได้ร่วมลงทุนในหลายบริษัท อาทิ PLANB, KEX ,NOBLE
ทั้งนี้ ในปี 64/65 ในกลุ่ม MOVE ตั้งงบลงทุน 1.5 หมื่นล้านบาท กลุ่ม MIX มีงบลงทุน 450 ล้านบาท
กลุ่ม MOVE ตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าจะเติบโต 3 เท่าเป็น 3 ล้านคน/วันในปี 68 จากปี 63 หรือก่อนเกิดโควิด-19 มีจำนวนผู้โดยสาร 8 แสนคน/วัน โดยปัจจุบันบีทีเอสเป็นผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ระยะทาง 68 กิโลเมตร จำนวน 60 สถานี นอกจากนี้ เตรียมจะเปิดบริการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองภายในปี 65 จะทยอยเปิดเริ่มต้นที่สถานีสำโรง ไปถึงบางสถานีบนถนนลาดพร้าว ส่วนสายสีชมพู สำหรับโครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบิน (BTS ถือหุ้น 35%) ขณะนี้เตรียมจัดทำแผน Master Plan ให้กับสำนักงาน EEC ภายในเดือนมิ.ย.นี้ ที่เป็นไปตามแผน และในต้นปี 65 คาดจะได้รับหนังสือให้เริ่มงานก่อสร้าง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 มิ.ย. 64)
Tags: BTS, กทม., กระทรวงมหาดไทย, กรุงเทพมหานคร, บีทีเอส, บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์, รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีเขียว, สัมปทานรถไฟฟ้า, สุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์, หุ้นไทย