นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ (STI) เปิดเผยกับ “อินโฟเควสท์” ว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจาเพื่อที่จะเข้าซื้อกิจการ (M&A) ด้านวิศวกรรมระบบ เพื่อที่จะเข้ามาหนุนความเข้มแข็งของบริษัทที่มีการให้บริการปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง รวมไปถึงการให้บริการออกแบบงานด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมที่ครบวงจร โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายปี 64 หรือช่วงต้นปี 65
สำหรับการขยายกิจการของบริษัทจะเน้นอุตสาหกรรมที่มีคู่แข่งไม่มาก ซึ่งยังมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และยังมีทิศทางการเติบโตในอนาคต โดยยังเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิมของบริษัท
“เรายังคงมองหาการขยายกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับบริษัทในปัจจุบัน เพื่อที่จะเสริมความเข้มแข็งและช่วยให้บริษัทสามารถให้บริการกับลูกค้าได้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีการเติบโตต่อเนื่องในอนาคต”
นายสมเกียรติ กล่าว
โดยบริษัทมีงานในมือ (Backlog) กว่า 4,000 ล้านบาท ที่จะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ และรับรู้รายได้ต่อเนื่องในอีก 3-4 ปี ซึ่งเป็นงานจากโครงการภาครัฐ อาทิเช่นศูนย์ราชการส่วนต่อขยาย ศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย และโรงพยาบาลต่างๆ เป็นต้น ในส่วนงานภาคเอกชนยังคงมีงานก่อสร้างคลังสินค้า ห้องเย็น โรงพยาบาล และโครงการวัน แบงค็อก (One Bangkok) ที่ยังดำเนินการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง และสามารถทยอยส่งมอบงานตามแผน
“หากเรารับงานแค่คอนโดเราก็คงแย่ แต่จากการที่บริษัทได้กระจายการรับงานไปในหลากหลายกลุ่ม หลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งโครงการต่างๆก็ยังคงดำเนินต่อไปทำให้เรายังมีการรับรู้รายได้เข้ามาต่อเนื่อง และหากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายก็จะเข้ามาหนุนให้งานต่างๆออกมามากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการได้เตรียมโครงการต่างๆรอไว้อยู่แล้ว”
นายสมเกียรติ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 มิ.ย. 64)
Tags: M&A, STI, งานก่อสร้าง, ผลประกอบการ, สมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์, สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์, หุ้นไทย, อุตสาหกรรม