ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลดลง เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้นได้สร้างแรงกดดันต่อบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลก
- ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 29,313.22 จุด เพิ่มขึ้น 11.43 จุด หรือ +0.04% และ
- ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 23,092.83 จุด ลดลง 197.01 จุด หรือ -0.85%
ตลาดถูกกดดันหลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 20 ปีในช่วงปีใหม่ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.71% เมื่อวันอังคาร (4 ม.ค.) ขณะที่เมื่อสิ้นปี 2564 อยู่ที่ระดับ 1.51% และอยู่ที่ระดับ 1.65% เมื่อช่วงบ่ายวานนี้
นายเอียน ลินเก็น หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ BMO ให้ความเห็นว่า “ผมคิดว่าแนวโน้มที่ดีด้านเศรษฐกิจ ประกอบกับความกังวลเรื่องเงินเฟ้อจะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นถึง 2% ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ นอกจากนี้ สภาพเศรษฐกิจและธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเป็นตัวกำหนดว่าอัตราผลตอบแทนจะเพิ่มขึ้นสูงแค่ไหน”
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้นได้สร้างแรงกดดันต่อหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยโดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่จดทะเบียนในฮ่องกง ร่วงลง 3.7% ในการซื้อขายช่วงเปิดตลาด ขณะที่หุ้นนินเทนโดในญี่ปุ่น ร่วงลง 1% และหุ้นซัมซุงในเกาหลีใต้ ดิ่งลง 2% ก่อนเผยผลประกอบการรายไตรมาส
ทั้งนี้ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น จะทำให้บริษัทต่าง ๆ เผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ม.ค. 65)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นเอเชีย