ศาลอุทธรณ์สหรัฐตัดสินในวันศุกร์ (17 ธ.ค.) ให้คืนคำสั่งบังคับธุรกิจขนาดใหญ่ในสหรัฐฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 หรือตรวจเชื้อโควิดให้กับพนักงาน ซึ่งเป็นคำสั่งของรัฐบาลกลางที่ครอบคลุมแรงงานชาวอเมริกัน 80 ล้านคน
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 ของสหรัฐในซินซินนาติ ได้ยกเลิกคำตัดสินในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาซึ่งห้ามสำนักงานบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัยสหรัฐ (OSHA) บังคับใช้คำสั่งดังกล่าวกับธุรกิจต่าง ๆ ที่มีพนักงานอย่างน้อย 100 คน
คณะผู้พิพากษา 3 คนของศาลอุทธรณ์แสดงความเห็นว่า “กฎหมายอนุญาตให้ OSHA ดำเนินการตามหน้าที่เพื่อรับรองสภาวะการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพสำหรับแรงงานของประเทศ และเพื่อรักษาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ”
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเปิดเผยในเดือนก.ย.ที่ผ่านมาว่า กฎหมายดังกล่าวจะเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนของประชากรวัยผู้ใหญ่เพื่อต่อสู้กับโรคระบาด ซึ่งได้คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้ว 750,000 ราย และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
บริษัทต่าง ๆ อาทิ ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ได้บังคับใช้กฎหมายดังกล่าวเพื่อเพิ่มจำนวนพนักงานที่ฉีดวัคซีน
ก่อนหน้านี้ พรรครีพับลิกัน, กลุ่มอนุรักษ์นิยม และองค์การการค้าได้ยื่นฟ้องเพื่อให้ศาลยกเลิกคำสั่งของ OSHA โดยระบุว่า OSHA ใช้อำนาจเกินหน้าที่
ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวกำหนดเส้นตายไว้ในวันที่ 4 ม.ค.ในการปฏิบัติตามข้อบังคับ แม้ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะยังคงยึดตามกำหนดเส้นตายเดิมหรือไม่ หลังจากที่กฎหมายดังกล่าวได้ถูกศาลสั่งระงับมานานหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ธ.ค. 64)
Tags: บังคับฉีดวัคซีน, ศาลอุทธรณ์, สหรัฐ