ดัชนีกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ร่วง 2.40% มาอยุ่ที่ 6,812.38 จุด ลดลง 167.78 จุด เมื่อเวลา 10.57 น. นำดิ่งโดยหุ้น NEX ร่วง 4.10% มาอยู่ที่ 18.70 บาท ลดลง 0.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 171.58 ล้านบาท
- หุ้น HANA ลบ 3.94% มาอยู่ที่ 91.50 บาท ลดลง 3.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,003.30 ล้านบาท
- หุ้น SMT ลบ 2.92% มาอยู่ที่ 6.65 บาท ลดลง 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 86.77 ล้านบาท
- หุ้น DELTA ลบ 2.28% มาอยู่ที่ 428.00 บาท ลดลง 10.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 222.81 ล้านบาท
- หุ้น KCE ลบ 2.17% มาอยู่ที่ 90.25 บาท ลดลง 2.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 529.31 ล้านบาท
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลงเช้านี้ คาดว่าจะเป็นผลจากที่ราคาหุ้นในกลุ่มนี้ได้ปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว และยังปรับตัวลงตามดัชนี Nasdaq ที่ร่วงกว่า 2% เมื่อคืนที่ผ่านมา จากแรงขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากมีความกังวลเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น ทำให้วิตกจะกระทบกำไรของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ บริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯจะมีหนี้สินอยู่ค่อนข้างมาก เมื่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นก็ทำให้กลัวว่าจะกระทบ Earing yield ให้ต่ำลงได้ อีกทั้งราคาหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯก็ถือว่าเทรดด้วย Valuation ที่ค่อนข้างสูง
ส่วนกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บ้านเรา รวมถึงบริษัทจดทะเบียนที่มีหนี้สินอยู่ ต่างก็วิตกเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น เพราะจะทำให้ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นด้วย แต่เท่าที่ดูกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในบ้านเราไม่ได้มีหนี้สินมากเหมือนอย่างของต่างประเทศ จึงคิดว่าจะได้รับผลกระทบด้านต้นทุนไม่มาก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ธ.ค. 64)
Tags: DELTA, HANA, KCE, SMT, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, ณัฐพล คำถาเครือ, บล.หยวนต้า, หุ้นไทย, อิเล็กทรอนิกส์, เคซีอี อีเลคโทรนิคส์