นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ยืนยันว่า วันที่ 7 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามความสมัครใจ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีการใช้วัคซีน 2 ยี่ห้อ คือ แอสตร้าเซนเนก้า และซิโนแวก ส่วนการฉีดขึ้นกับวัน-เวลาที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนตัวใด ซึ่งบางที่จัดส่งทุกวัน, ทุก 3 วัน หรือสัปดาห์ละครั้ง แต่วัคซีนทุกชนิดที่ฉีดให้กับประชาชนมีมาตรฐาน ผ่านการพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และฉีดได้ในคนอายุ 18 ปีขึ้นไปได้เหมือนกัน
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างเจรจาจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม เช่น ไฟเซอร์ และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ที่อยู่ในขั้นการตกลงเงื่อนไขสัญญาจัดซื้อจัดหา โดยวัคซีนที่จัดหาต้องมีความปลอดภัยนำมาใช้เพื่อลดการติดเชื้อ การแพร่เชื้อ ลดอาการรุนแรงและเสียชีวิต
นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีสถาบันบำราศนราดูร มีการประกาศเลื่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 นั้น ยืนยันว่ามีการฉีดตามกำหนดนัดหมายเหมือนเดิม สำหรับการชะลอลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่านหมอพร้อมเป็นนโยบายของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) โดยให้แต่ละจังหวัดไปจัดทำระบบลงทะเบียนของตัวเอง แต่คนที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมแล้วยังได้รับการฉีดวัคซีนแน่นอน
“กระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่จัดหาและกระจายจัดส่งวัคซีนไปยังพื้นที่ จังหวัด หรือหน่วยงานต่างๆ ตามที่ ศบค.พิจารณากำหนด ส่วนการฉีดให้กลุ่มเป้าหมาย เป็นการพิจารณาของแต่ละจังหวัด อย่างไรก็ตาม หลังการฉีดวัคซีนจำนวนมาก การติดเชื้อย่อมลดลง”
นายอนุทินกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 พ.ค. 64)
Tags: AstraZeneca, COVID-19, Johnson & Johnson, Pfizer, Sinovac, กระทรวงสาธารณสุข, จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน, ซิโนแวก, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, ศบค., สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, หมอพร้อม, อนุทิน ชาญวีรกูล, อย., แอสตร้าเซนเนก้า, โควิด-19, ไฟเซอร์