สิงคโปร์ประกาศบังคับใช้มาตรการชะลอความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในวันพุธ (15 ธ.ค.) รวมถึงการขึ้นอากรแสตมป์และคุมเข้มเพดานการปล่อยสินเชื่อ
ทั้งนี้ รัฐบาลสิงคโปร์ระบุในแถลงการณ์ว่า ตลาดบ้านของเอกชนและของภาครัฐมีความคึกคัก แม้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ราคาบ้านเอกชน พุ่งขึ้นราว 9% นับตั้งแต่ไตรมาส 1/2563 ขณะที่ราคาที่อยู่อาศัยของภาครัฐ ปรับตัวขึ้นประมาณ 15%
“หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่เข้าควบคุมดูแล ราคาอาจพุ่งแซงหน้าปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดการปรับฐานอย่างไร้เสถียรภาพในภายหลัง” กระทรวงการคลังสิงคโปร์ กระทรวงการพัฒนาแห่งชาติสิงคโปร์ และธนาคารกลางสิงคโปร์ระบุในแถลงการณ์ร่วม
มาตรการควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสิงคโปร์จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. โดยประกอบด้วยการปรับขึ้นอากรแสตมป์ผู้ซื้อบ้านเพิ่ม (ABSD) สำหรับชาวต่างชาติเป็น 30% จากปัจจุบันที่ระดับ 20%
นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวยังจะเพิ่มอากรแสตมป์สำหรับพลเมืองสิงคโปร์ที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 เป็น 17% จาก 12% ขณะที่อากรแสตมป์สำหรับการซื้อบ้านหลังที่ 3 ขึ้นไป จะเพิ่มเป็น 25% จาก 15%
ส่วนอากรแสตมป์ ABSD สำหรับผู้พำนักอาศัยถาวรที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 จะเพิ่มเป็น 25% จาก 15% และอากรแสตมป์สำหรับการซื้อบ้านหลังที่ 3 ขึ้นไป จะปรับขึ้นเป็น 30% จาก 15%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ธ.ค. 64)
Tags: สิงคโปร์, อสังหาริมทรัพย์