นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้หารือกับนายไมเคิล ฮีธ (Michael Heath) อุปทูตสหรัฐฯ รักษาการเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย โดยรักษาการเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ได้กล่าวชื่นชมรัฐบาลไทย และกระทรวงพาณิชย์ ที่สามารถดูแลห่วงโซ่การผลิต และเศรษฐกิจในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาว่าสามารถดำเนินการไปได้อย่างดี และมีความต่อเนื่อง แม้จะเผชิญสถานการณ์โควิด พร้อมสนับสนุน BCG โมเดล (Bio-Circular-Green Economy Model) ของไทย โดยเฉพาะในช่วงการประชุมเอเปคที่ไทยเป็นเจ้าภาพในปี 65
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ยังขอบคุณไทยที่ช่วยสนับสนุนพัฒนา และปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาออนไลน์ โดยเฉพาะบทบาทของไทยในการให้ความรู้ในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยมีกระทรวงพาณิชย์เป็นแกนหลัก นอกจากนี้ ยังมีข่าวดีสำหรับเกษตรกรไทย โดยสหรัฐฯ ได้อนุญาตให้ส้มโอจากไทยสามารถส่งออกไปสหรัฐฯ ได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ยังให้ความสำคัญกับการลงทุนเรื่องการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยแจ้งว่าในอนาคตมีหลายยี่ห้อที่จะเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ โดยบริษัทฟอร์ดได้เข้ามาลงทุนในไทยแล้ว มูลค่า 950 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3 หมื่นล้านบาท
ในส่วนของไทย ได้แจ้งสหรัฐฯ 3 ประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. ไทยให้ความสำคัญกับการเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบผสมผสาน โดยเฉพาะการใช้ BCG Model ในการขับเคลื่อน โดยไทยจะชู BCG Model ในการประชุมเอเปคที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพปีหน้า
2. เรื่องทรัพย์สินทางปัญญา ไทยแจ้งว่าได้จับมือกับสำนักผู้แทนการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Trade Representative: USTR) ขับเคลื่อนแผนดำเนินการด้านทรัพย์สินทางปัญญาร่วมกันเป็นระยะเวลายาวนาน และมีความคืบหน้าเป็นรูปธรรม ในการพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งการปกป้อง และการบังคับใช้กฎหมายในการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งสหรัฐฯ ได้ปลดประเทศไทยจากบัญชีที่อาจจะต้องจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) เป็นจับตามอง (WL) และขอให้ท่านทูตประสานไปยัง USTR ให้ปลดไทยจากบัญชี WL ต่อไป ซึ่งจะมีการพิจารณาเร็วๆ นี้
3. ไทยและสหรัฐฯ เห็นว่าสองฝ่ายสามารถหารือเพื่อสนับสนุนการค้าการลงทุนในเชิงลึกระหว่างกันได้ ผ่านเวที TIFFA ซึ่งไทยได้เป็นเจ้าภาพการประชุมเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และได้แจ้งว่าอยากเห็นสหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพการประชุมในปีหน้า เพื่อส่งเสริมมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างกันต่อไป
ทั้งนี้ สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทย รองจากจีน และญี่ปุ่น โดยมูลค่าการค้าระหว่างไทย-สหรัฐ เฉลี่ยปีละประมาณ 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับในช่วง 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค. 64) ไทยส่งออกไปสหรัฐฯ มูลค่า 34,137 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.066 ล้านล้านบาท) ส่งออกเพิ่มขึ้น 20.05% โดยไทยได้ดุลการค้ามูลค่า 22,270 ล้านเหรียญสหรัฐ (691,247 ล้านบาท) และได้ดุลเพิ่มขึ้น 43.36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ธ.ค. 64)
Tags: BCG Model, กระทรวงพาณิชย์, จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, เศรษฐกิจไทย