รัฐบาลอังกฤษซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนของ G7 ในปีนี้เปิดเผยว่า รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G7 ได้ให้คำมั่นว่าจะเฝ้าระวังไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ และจะทำงานร่วมกันในประเด็นห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในระหว่างการประชุมทางออนไลน์เมื่อวันจันทร์ (13 ธ.ค.) รมว.คลังของกลุ่ม G7 เห็นพ้องที่จะร่วมมือกันแก้ปัญหาภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานซึ่งเร่งให้เกิดเงินเฟ้อทั่วโลก และอาจสกัดกั้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด
แถลงการณ์ระบุว่า กลุ่มประเทศ G7 “เห็นพ้องที่จะเฝ้าระวังไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ขณะร่วมมือกันในประเด็นอุปทานทั่วโลก และแลกเปลี่ยนมุมมองในการส่งเสริมความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานมากขึ้น ตลอดจนวางแผนรับมือกับภาวะชะงักงันที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วย”
ทั้งนี้ ความกังวลทวีความรุนแรงขึ้นเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เช่นเดียวกับความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อทั่วโลก โดยเป็นผลจากการขาดแคลนสินค้า เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเกิดจากภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ธ.ค. 64)