นางแครี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงเปิดเผยว่า ฮ่องกงจะให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกกับการเปิดให้นักธุรกิจเดินทางเข้าฮ่องกงได้โดยไม่ต้องกักตัวเมื่อมีการเปิดพรมแดนระหว่างฮ่องกงและจีน อย่างไรก็ดี นางลัมเตือนว่า อัตราการฉีดวัคซีนที่อยู่ในระดับต่ำของฮ่องกงอาจส่งผลกระทบต่อความพยายามในการเปิดพรมแดน
“หากเราไม่สามารถปรับเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนในฮ่องกง สิ่งนี้จะเป็นปัจจัยขัดขวางแผนการเปิดพรมแดนของเรา”
นางลัมกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในวันนี้
ข้อมูลติดตามการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า มีประชากรในฮ่องกงเพียง 61% เท่านั้นที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ซึ่งล้าหลังสิงคโปร์ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนครบโดสสูงถึง 88%
ทั้งนี้ นางลัมกล่าวว่า รัฐบาลฮ่องกงมีแผนที่จะกำหนดโควตาสำหรับนักธุรกิจในหลากหลายภาคส่วน เพื่อเตรียมความพร้อมเมื่อรัฐบาลกลางยืนยันว่าจะเริ่มใช้นโยบายการเดินทางแบบไม่ต้องกักตัว
“ในฐานะศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ เราต้องให้ความสำคัญกับการเดินทางของผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางเข้าประเทศจีนเพื่อทำธุรกิจ”
นางลัมกล่าว และเพิ่มเติมว่า รัฐบาลยังมีแผนที่จะกำหนดโควตาสำหรับผู้เดินทางที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรืองานของรัฐบาลด้วย อย่างไรก็ดี นางลัมไม่ได้เปิดเผยว่าตัวเลขโควตาโดยรวมมีจำนวนเท่าใด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ธ.ค. 64)
Tags: จีน, ฉีดวัคซีนโควิด, ฮ่องกง, เปิดพรมแดน, แครี ลัม