นายชนัตถ์ สรไกรกิติกูล ประธานกรรมการการเงินและบริหารความเสี่ยง บมจ.แพรนด้า จิวเวลรี่ (PDJ) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/64 คาดดีกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมองว่าช่วงครึ่งปีแรกบริษัททำได้ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ ดังนั้นในไตรมาส 3-4/64 มีความจำเป็นต้องทำยอดขายให้มากขึ้นเพื่อทดแทนยอดขายที่พลาดเป้าไป เพื่อให้สามารถทำรายได้ตามเป้าทั้งปีที่ 3,201 ล้านบาทได้
ผลกระทบหลักที่ทำให้ยอดขายพลาดเป้าในช่วงที่ผ่านมามาจากส่วนธุรกิจค้าปลีก (Retail) ซึ่งบริษัทมองว่าหลังไตรมาส 3/64 หากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เริ่มผ่อนคลายจะพลิกกลับมาเติบโตได้ ในขณะเดียวกันในไตรมาส 2/64 คาดว่าจะเห็นยอดขายจากธุรกิจฐานการผลิต (Production) ประมาณ 60-100 ล้านบาท จากคำสั่งซื้อที่ถูกชะลอในไตรมาส 1/64 จะกลับเข้ามา
สำหรับธุรกิจค้าปลีก (Retail) บริษัทได้วางกลยุทธ์ One Prima เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้ โดยก่อนหน้านี้ตั้งเป้ารายได้เติบโตแบบตัวเลขสองหลักภายในระยะเวลา 3 ปี อย่างไรก็ตาม จากการระบาดของโควิด-19 จึงทำให้แผนนี้เลื่อนออกไป รวมถึงมีการชะลอแผนการขยายสาขาออกไปด้วย
ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายธุรกิจค้าปลีก (Retail) ที่ 1,100 ล้านบาท แต่คาดว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะทำได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ 40% เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอก 3 ของโควิด-19 นอกจากนี้ธุรกิจในประเทศเวียดนามก็คาดว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่ 50% เนื่องจากมีการปิดห้างสรรพสินค้าที่นครโฮจิมินห์ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 อย่างไรก็ตามมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะกลับมาดีขึ้น
ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวยังไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้อย่างเต็มรูปแบบ บริษัทจึงเน้นลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงแทน เช่น VVIP Program รวมท้งมองการสร้างฐานลูกค้าเพิ่มในกลุ่มกำลังซื้อสูงของลูกค้าในกลุ่มพันธมิตร เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล
ส่วนธุรกิจจัดจำหน่าย (Distribution) บริษัทมีแผนการดำเนินธุรกิจในการทำสินค้าท้องถิ่นที่ประเทศอินเดีย ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการนำเข้าคาดว่าในครึ่งปีแรกจะไม่สามารถทำตามเป้าที่ตั้งไว้ 34 ล้านบาท โดยน่าจะต่ำกว่าเป้าหมายราว 20% เนื่องจากที่อินเดียมีการระบาดของโควิด-19 อย่างหนัก ส่วนการก่อสร้างโรงงานที่อินเดียคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินงานอย่างเต็มรูปแบบได้ตั้งแต่เดือน ส.ค.เป็นต้นไป
ด้านธุรกิจฐานการผลิต (Production) บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ 2,000 ล้านบาท โดยวางกลยุทธ์เน้นฐานลูกค้าที่ค่อนข้างแข็งแรงอย่าง Affordable fine jewelry เป็นหลัก คาดว่าจะเห็นการเติบโตจากการจับจ่ายใช้สอยในลักษณะที่มีความระมัดระวังมากขึ้น
ขณะที่การขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ GEMONDO บริษัทตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 111 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดจากปีก่อนที่ 63 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะสามารถทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 36 ล้านบาท
นายชนัตถ์ เปิดเผยอีกว่า เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินการปิดกิจการที่ไม่สร้างผลกำไร Pranda North America. Inc. เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการดำเนินงานอย่างถาวร
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มิ.ย. 64)
Tags: PDJ, ชนัตถ์ สรไกรกิติกูล, หุ้นไทย, อัญมณีและเครื่องประดับ, แพรนด้า จิวเวลรี่