องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเตือนว่า มาตรการระงับการเดินทางแบบเหวี่ยงแห (Blanket Travel Bans) นั้นไม่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนได้ทั่วโลก แม้หลายประเทศจะได้นำมาตรการดังกล่าวไปใช้แล้วก็ตาม
แม้ WHO จะจัดให้ไวรัสโอไมครอนเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล แต่ WHO ก็เตือนว่ามาตรการระงับการเดินทางแบบเหวี่ยงแหมีแต่จะสร้างภาระหนักต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน อีกทั้งยังทำให้ประเทศต่าง ๆ ขาดความกระตือรือร้นที่จะรายงานและเผยแพร่ข้อมูลด้านระบาดวิทยาและลำดับทางพันธุกรรมของไวรัส
ทั้งนี้ WHO รายงานพบไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนเป็นครั้งแรกในแอฟริกาใต้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจนถึงขณะมีหลายประเทศและภูมิภาคได้ยืนยันแล้วว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
“มีการคาดการณ์ถึงแนวโน้มที่ว่า จะมีหลายประเทศที่ตรวจสอบไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มขึ้น เนื่องจากรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ เริ่มยกระดับการเฝ้าระวังและการตรวจหาลำดับพันธุกรรมของไวรัส”
WHO ระบุในคำแนะนำการเดินทางฉบับแก้ไข
WHO ยังระบุว่า ณ วันที่ 28 พ.ย. มี 56 ประเทศที่ใช้มาตรการควบคุมการเดินทางเพื่อสกัดไม่ให้ไวรัสโอไมครอนเข้ามาระบาดในประเทศ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ระหว่างการประชุมเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโอไมครอนเมื่อวานนี้ (30 พ.ย.) นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO ระบุว่า การใช้มาตรการป้องกันแบบเหวี่ยงแหอย่างที่บางประเทศทำนั้นไม่ได้มีหลักฐานสนับสนุนหรือมีประสิทธิภาพมากพอ โดยขอให้ประเทศต่าง ๆ ใช้มาตรการเพื่อลดความเสี่ยงโดยคำนึงถึงหลักเหตุผลและความเหมาะสมตามข้อกำหนดของกฎอนามัยระหว่างประเทศ (IHR)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ธ.ค. 64)
Tags: COVID-19, WHO, องค์การอนามัยโลก, โควิด-19, โควิดสายพันธุ์โอไมครอน, โควิดสายพันธุ์ใหม่, โอไมครอน