นายเกษมศานต์ โชติชาครพันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท (MCOT) กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของ อสมท ที่มีทิศทางที่ดีขึ้นและทำกำไรอย่างต่อเนื่องในปี 2565 อสมท ประกาศวิสัยทัศน์ “The Year of Trusted News & Smart Entertainment” ตอกย้ำความเป็นผู้นำเสนอเนื้อหาที่น่าเชื่อถือ เที่ยงตรง รวดเร็ว และตรวจสอบได้
โดย อสมท จะขยับไปสู่ Communication Solution Provider ผ่าน Content / Product & Service ที่มี Solution พร้อมตอบโจทย์ให้คำปรึกษากับลูกค้า โดยผนึกความร่วมมือกับ Strategic Partner เพื่อเติบโตไปด้วยกัน มีกลยุทธ์สำคัญที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างธุรกิจใหม่ในอนาคต คือ Reinforce – Refresh – Refine
- Reinforce เสริมจากสิ่งเดิมที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้น ด้วย Strategic Partner ยกระดับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อร่วมสร้างเป้าหมายไปด้วยกัน เสริม Content ที่ Wise & Clean มุ่งนำเสนอเนื้อหาที่สร้างสรรค์ เป็นประโยชน์กับสังคม ถูกต้องตรวจสอบได้
- Refresh มุ่งสู่ The Trusted Platform และ Smart Entertainment และ
- Refine ต่อยอด Assets เดิมเพื่อสร้างรายได้
พร้อมมีเป้าหมายก้าวเข้าไปสู่ “หุ้นยั่งยืน” ภายในปี 2568 ที่มีกำไรต่อเนื่อง ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลักสากล (ESG – Environmental (สิ่งแวดล้อม) Social (สังคม) และ Governance (ธรรมาภิบาล)) เพื่อสร้างโอกาสให้บริษัทเป็นที่สนใจจากผู้ลงทุนที่มีแนวคิดด้านการลงทุนอย่างยั่งยืน
“ผังรายการใหม่ของช่อง 9 MCOT HD ที่จะเริ่มในเดือนมกราคม 2565 ยังคงตอกย้ำความเป็น Trusted Content สร้างความนิยมด้วยการพัฒนารายการข่าว , รายการบันเทิง และ Refreshing Brand ส่งรายการใหม่ลงเต็มผังในช่วง Prime – Time เพิ่มความนิยม และหวังให้ Content สามารถกลับมาอยู่ในใจผู้ชม ผู้ฟัง อีกครั้ง จัดเต็มรายการข่าว 80 ชั่วโมง/สัปดาห์ เน้น Inform และ Verifyนำสาระที่มีประโยชน์อ้างอิงและเชื่อถือได้มานำเสนอ เสริมความสนุกด้วย Smart Entertainment ที่ได้ทั้งความบันเทิงและสาระความรู้ไปพร้อมๆกัน กับ Content ชั้นนำจากพันธมิตรบันเทิงระดับแถวหน้าของประเทศ อาทิ We TV, MONO ฯลฯ”
สำหรับรายการใหม่ช่วง Prime-Time ได้แก่ รายการเปิดอกเคลียร์, รายการชูวิทย์สะกิดติ่ง ที่ได้ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ในบุคลิกใหม่ที่ไม่เคยปรากฎที่ไหนมาก่อน และ รายการข่าวหุ้น ฯลฯ
สำหรับเป้าหมายในระยะยาวของ อสมท คือ การต่อยอด Content ที่มีอยู่ไปในช่องทาง Online และ Platform OTT จะเห็นได้ว่าตลาด OTT มีความคึกคักอย่างมาก เพราะผู้ผลิต Content รวมถึงสถานีโทรทัศน์หลายรายปรับกลยุทธ์มาให้ความสำคัญกับ Platform OTT มากยิ่งขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในสถานการณ์ทีวีดิจิตอลอยู่ในช่วงขาลงจากพฤติกรรมผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงไป ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 กระตุ้นให้ผู้ชมปรับตัวมาติดตาม Content บน Platform Online มากยิ่งขึ้น คาดการณ์ว่าตลาด Platform OTT ในประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านบาท
ที่ผ่านมา อสมท ส่งซีรีส์วาย Boy Love ซึ่งมีแนวโน้มได้รับความนิยมเป็นอย่างมากชิมลางลง OTT ทั้งในประเทศ อาทิ AISPLAY, WE TV ฯลฯ และต่างประเทศ อาทิ GagaOOLala , U-Next รวมถึงการเป็นตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์ Content ในตลาดต่างประเทศ เริ่มเจาะกลุ่มตลาดในภูมิภาคอาเซียน เพื่อนำไปออกอากาศผ่านเครือข่าย Free TV และ Platform OTT ปัจจุบันเริ่มมีรายได้จากการขยาย Content ไปใน Platform ดังกล่าว คาดว่าจะเป็นอีกช่องทางที่สร้างรายได้ในระยะยาวให้องค์กร”
ด้านธุรกิจวิทยุนั้น อสมท เตรียมความพร้อมในการร่วมประมูลคลื่นวิทยุ ตามที่สำนักงาน กสทช.ประกาศว่าจะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2565 ในระหว่างนี้มุ่งสร้าง Community ผู้ฟังผ่าน New Platform Online: The Trusted มุ่งเน้น Content ที่ชัดเจน ตรงประเด็น มีสาระขยายรูปแบบการให้บริการเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นหลังการประมูลคลื่นวิทยุ คาดว่า ในปีหน้ารายได้จากธุรกิจวิทยุจะมีแนวโน้มดีขึ้น ประกอบกับจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เริ่มมีการปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมจาก On ground ไปสู่ Online ทำให้สามารถสร้างสรรค์กิจกรรมในรูปแบบใหม่ๆได้หลากหลายและควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ดี
ธุรกิจการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิตอลนั้น ล่าสุดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน กสทช. ให้ทดลองส่งสัญญาณออกอากาศฯ ภายใต้ชื่อ “ช่อง T Sports 7 ช่องหมายเลข 7” โดยออกอากาศผ่านโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลของ อสมท แบบความคมชัดปกติ (Standard Definition) จะเริ่มสะท้อนรายได้เข้ามาในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา
ปัจจุบัน อสมท มีผู้ใช้บริการโครงข่ายฯ 4 ช่องรายการ ซึ่งเป็นช่องรายการโทรทัศน์ดิจิตอลแบบความคมชัดสูง (High Definition) 2 ช่องรายการ ได้แก่ ไทยรัฐทีวี ช่องหมายเลข 32 และ MCOT HD ช่องหมายเลข 30 และ ช่องรายการโทรทัศน์ดิจิตอลแบบความคมชัดปกติ (Standard Definition) 2 ช่องรายการ คือ สถานีโทรทัศน์รัฐสภา ช่องหมายเลข 10 และ ช่อง T Sports 7 ช่องหมายเลข 7 มั่นใจว่าด้วยศักยภาพความพร้อมด้านเทคโนโลยีและบุคลากรของ อสมท จะพร้อมสนับสนุนการออกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ธุรกิจนี้ ถือเป็นอีกธุรกิจสำคัญที่เป็นแหล่งรายได้ให้กับ อสมท เนื่องจากเป็นรายได้ที่ไม่ได้ แปรผันไปตามการบริโภคของประเทศเหมือนธุรกิจสื่อโทรทัศน์ และวิทยุ
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวว่า อสมท เร่งปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจไปสู่ธุรกิจใหม่ (New Business Model) ลงสนามในธุรกิจ TV Home Shopping ในชื่อ Shop Mania ด้วยการใช้ช่อง 9 MCOT HD เป็นช่องทางหลักในการจำหน่ายสินค้า เพราะเป็น Real – Time Platform ที่ โดยมีสินค้าหลัก คือ สินค้ากลุ่มสุขภาพความงาม และเครื่องใช้ในบ้าน ในอนาคตมีแผนที่จะเพิ่มความหลากหลายของประเภทสินค้า รวมถึงเตรียมผลิตสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงามภายใต้ Brand ของตัวเอง เพื่อออกจำหน่ายทาง Shop Mania และขยายช่องทางโปรโมตด้วยการผสานทุก Platform ของ อสมท เพื่อให้ครอบคลุมและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค ตลอดจนสร้างสรรค์ Content การนำเสนอขายสินค้าให้น่าสนใจยิ่งขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็ว
ส่วนการต่อยอด Assets เช่น ทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ (ที่ดิน) ที่มีทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ย่านรัชดา-พระราม 9, หนองแขม, บางไผ่ และในภูมิภาค จะดำเนินการด้วยความรอบคอบภายใต้กฎหมาย ข้อบังคับต่างๆ และคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับเป็นสำคัญ คาดว่าในไตรมาส 2/2565 จะเริ่มเห็นความชัดเจนของการพัฒนาที่ดินย่านรัชดา-พระราม 9 รวมถึงธุรกิจองค์ความรู้เพื่อสังคมที่สามารถต่อยอดจาก MCOT ACADEMY และชัวร์ก่อนแชร์ ฯลฯ โดยคาดหวังว่าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจใหม่
“ที่ผ่านมา อสมท ได้ปรับแผนธุรกิจให้สอดรับกับสถานการณ์และสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้อย่างทัดเทียม ไม่ว่าจะเป็นการมุ่งหาพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจใหม่ และเพิ่มความสามารถด้านการสร้างผลกำไรเพื่อสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น โดยมีเป้าหมายในการ ขับเคลื่อน อสมท ให้เติบโตและก้าวสู่หุ้นยั่งยืนภายในปี 2568”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ย. 64)
Tags: MCOT, หุ้นไทย, อสมท, เกษมศานต์ โชติชาครพันธุ์