นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานภายใต้แผนแม่บทย่อยเกษตรแปรรูป ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างมูลค่าโดยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิตและแปรรูป เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตลอดจนมีการสนับสนุนต่อยอดไปสู่สินค้าเกษตรขั้นสูงที่มีคุณค่าเฉพาะ และผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง กำหนดจำนวนเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้สนใจเป้าหมาย 2,030 ราย ให้มีการส่งเสริมสินค้าเกษตรแปรรูปและผลิตภัณฑ์ มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 3% ภายในระยะเวลา 5 ปี (61-65) โดยมีกรมปศุสัตว์ กรมประมง และกรมการข้าว เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก
โดยสามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสินค้าเกษตรให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการ 2,058 ราย (101% ของเป้าหมาย) จากการสำรวจตัวอย่างเกษตรกร 64 ราย และผู้ประกอบการ 44 ราย ในพื้นที่ 20 จังหวัด เกษตรกรนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ ส่งผลให้มูลค่าสินค้าแปรรูปเพิ่มขึ้นในภาพรวมมากกว่า 80 บาท/กิโลกรัม และเกิดเครือข่ายในลักษณะพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันในการซื้อขายวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ ตลอดจนได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในด้านต่างๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งหากพิจารณาในแต่ละกิจกรรมย่อย ทั้ง 3 ประเภท ได้แก่
1.การพัฒนาผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์โดยกรมปศุสัตว์ มีการจัดอบรมถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกร เช่น เรื่อง การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเนื้อแพะ-แกะ การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเนื้อกระบือ การแปรรูปผลิตภัณฑ์พื้นบ้านสู่มาตรฐานสากล การแปรรูปผลิตภัณฑ์นมเพื่อเกษตรกร การแปรรูปเนยแข็งในอุตสาหกรรมขนาดเล็ก การแปรรูปอาหารอีสานจากไก่งวง ส่งผลให้เกษตรกร 73% สามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรแปรรูปได้เฉลี่ย 96.36 บาท/กิโลกรัม โดยสินค้าที่แปรรูปและจำหน่ายเพิ่มมูลค่า ได้แก่ จ้อไก่งวง สลัดโรลไก่งวง ไก่งวงรมควัน และแคบกระบือ ขณะที่ผู้ประกอบการ 82% มีการแปรรูปที่จำหน่าย อาทิ ไส้กรอกหมูเยอรมัน โยเกิร์ตพร้อมดื่ม นมพาสเจอร์ไรซ์ และกรีกโยเกิร์ต สามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรแปรรูปเฉลี่ย 28.10 บาท/กิโลกรัม ทั้งนี้ เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการมีการนำความรู้ที่ได้รับ เรื่อง การผลิตไส้กรอกไปถ่ายทอดต่อให้กับเพื่อนบ้าน นักเรียน นักศึกษา ด้วยเช่นกัน
2.การพัฒนาผลิตภัณฑ์ประมงโดยกรมประมง มีการจัดอบรมถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกร เช่น เรื่อง การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากหอยแมลงภู่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ลูกชิ้นปลา และแนวทางการประยุกต์ใช้เครื่องปั้นลูกชิ้นในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ปลาส้มสายเดี่ยว เกษตรกร 89% สามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรแปรรูปเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 99.40 บาท/กิโลกรัม โดยแปรรูปสินค้าจำหน่ายข้าวเกรียบแท่งจากหอยแมลงภู่ นอกจากนี้ยังมีการแปรรูปและจำหน่าย ไส้อั่วปลานิล และ ปลาดุกสวรรค์ หรือคิดเป็นรายได้ ขณะที่ผู้ประกอบการ 80% มีมูลค่าสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นจากการแปรรูปเฉลี่ย 87 บาท/กิโลกรัม
3.การพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปที่สร้างมูลค่าเพิ่มสูง โดยกรมการข้าว มีการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว เช่น เครื่องบดแป้ง ตู้แช่แข็ง และชุดเครื่องปั่นผสมของเหลวแบบควบุคมอุณหภูมิ และดำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปข้าวเชิงพาณิชย์จำนวน 1 ผลิตภัณฑ์ คือ ผลิตภัณฑ์แป้งเครปสำเร็จรูปจากข้าวหอมกระดังงาและข้าวเมล็ดฝ้าย และถ่ายทอดให้แก่ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ผลิตข้าวปลอดสารพิษ ตำบลสะบ้า อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง
ทั้งนี้ ภาพรวมเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการ มีความพึงพอใจต่อการดำเนินงานโครงการในระดับมากที่สุด อย่างไรก็ตาม สินค้าเกษตรแปรรูปบางส่วนยังต้องพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการผลิตให้ได้รับการรับรองตามเกณฑ์มาตรฐานการผลิต เพื่อต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป รวมถึงการจัดกิจกรรมให้ผู้ผลิตต้นน้ำได้มีโอกาสพบปะกับผู้ประกอบการแปรรูปกลางน้ำ เพื่อสร้างเครือข่ายการผลิต การแปรรูสินค้า และขยายช่องทางการตลาด โดย สศก.จะมีการติดตามผลการส่งเสริมการแปรรูปในกลุ่มเกษตรกรและสหกรณ์ในระยะต่อไป ในช่วงปลายเดือน ธ.ค.64 อีกครั้ง และจะสรุปผลการติดตาม พร้อมรายงานให้ทราบเป็นระยะต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ย. 64)
Tags: กรมการข้าว, กรมประมง, กรมปศุสัตว์, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, ฉันทานนท์ วรรณเขจร, สศก., เกษตรกร, เกษตรแปรรูป