นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) คาดว่า ในปี 65 บริษัทจะมีรายได้และกำไรที่ทำสถิตสูงสุดอีกครั้ง โดยตั้งเป้าจะทำกำไรทั้งในงบเฉพาะกิจการ และงบรวมทำนิวไฮไม่ควรต่ำกว่า 6 พันล้านบาท เนื่องจากมองว่าธุรกิจในปีหน้าจะเติบโตในหลายมิติ และได้รับอานิสงส์จากภาพรวมกำลังซื้อของประเทศฟื้นตัว ขณะที่ตั้งเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อจะเติบโตเกิน 1 แสนล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะปิดปี 64 ที่ 9.5 หมื่นล้านบาท โดยในไตรมาส 4/64 การปล่อยสินเชื่อดีขึ้นทันทีตั้งแต่เดือน ต.ค.หลังจากทางการคลายล็อกดาวน์
“เราดูสภาพตลาด ดูสภาพการแข่งขัน เรากำลังคิดว่า ตัวเลข Portfolio ปิดปีนี้ที่ 9.5 หมื่นล้านบาท เรามีความรู้สึกเราอยากโตเกิน 1 แสนล้านบาท ตอนนี้เรา work กับธนาคาร (ธนาคารกรุงไทย หรือ KTB) ซึ่งธนาคารก็เห็นชอบว่าพอร์ตเกินแสนล้านบาทอยู่ในวิสัยที่เป็นไปได้ โดยธนาคารก็จะร่วมมือกับเรากำหนดเป้าให้ชัดเจนให้ไปถึงจุดนี้ได้” นายระเฑียร กล่าว
นายชุติเดช ชยุติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน KTC กล่าวว่า ในปี 65 บริษัทตั้งเป้ายอดใช้จ่ายกลับมาเติบโตได้ 10% ใกล้ฐานเดิมในปี 62 จากปี 64 ที่คาดว่าจะติดลบ 1% และปี 63 ติดลบ 8% หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในไตรมาส 3/64 แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 64 จะสามารถเติบโตดี
ส่วนยอดสินเชื่อส่วนบุคคล ตั้งเป้าหมายในปี 65 เติบโต 7% ใกล้เคียงฐานเดิมในปี 62 และสินเชื่อพี่เบิ้มตั้งเป้ายอด 2,500 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ 1,500 ล้านบาท และสินเชื่อเช่าซื้อ 1,000 ล้านบาท
สำหรับยอดบัตรใหม่ในปี 65 ตั้งเป้าไว้ที่ 2.5 แสนบัตร จากปี 64 คาดว่าจะมีจำนวนบัตรใหม่ราว 1.5 -1.7 แสนบัตร
“ปี 65 น่าจะมีจังหวะดีกว่าปีนี้ เพราะไม่มีการปิดเมือง ก็น่าจะทำได้ 2.5 แสนใบ ใกล้เคียงปี 62 และปี 65 กำไรดีกว่าปี 64 “
นายระเฑียร ยังกล่าวถึงมาตรการรวมหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า มาตรการนี้จะส่งผลดีกับ KTC โดยบริษัทโฟกัสเรื่องคุณภาพหนี้มากว่าปริมาณ นอกจากนี้ KTC กับธนาคารมีความร่วมมือกันอยู่แล้วและจะมีมากขึ้นในปีหน้า โดย KTC เข้มงวดกระบวนการอนุมัติและติดตามหนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ย. 64)
Tags: KTC, ธปท., บัตรกรุงไทย, ระเฑียร ศรีมงคล, หุ้นไทย