GPI คาดผลงานปีนี้ดีกว่าปีก่อนหลัง 9 เดือนกำไรโต 6.99% ลุ้นโรงไฟฟ้า COD

นายปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (GPI) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ที่อยู่ในภาวะชะลอตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 และการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามบริษัทสามารถรักษาภาพรวมผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรกของปี 64 อยู่ในระดับที่ดี โดยมีกำไรสุทธิ 76.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.99% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 71.43 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการขายและบริการรวม 475.12 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและบริการรวม 475.27 ล้านบาท

ปัจจัยการเติบโตในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มาจากการรับรู้รายได้หลักจากการจัดงาน Bangkok International Motor Show 2021 ในเดือนมีนาคม – เมษายนที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจรับจ้างพิมพ์ที่บริษัทฯ สามารถจัดหางานพิมพ์เพื่อสร้างรายได้แก่บริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมุ่งเน้นบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับ 47%

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายน่าจะเติบโตได้ต่อเนื่อง เนื่องจากคาดการณ์ว่าธุรกิจโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะแปรรูปในจังหวัดนครสวรรค์ ที่บริษัทลงทุนถือหุ้นในบริษัท ทรูเอ็นเนอร์จี จำกัด คิดเป็นสัดส่วน 25.75% น่าจะเริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวมีกำลังการผลิตติดตั้ง 9 เมกะวัตต์ (MW) และมีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นระยะเวลา 25 ปี (สัญญา 5 ปีและต่อครั้งละ 5 ปีโดยอัตโนมัติ) โดยจะได้รับส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) ในอัตรา 3.50 บาทต่อหน่วย (Kwh) เพิ่มจากค่าไฟฐานเป็นระยะเวลา 7 ปีนับจากวันที่เริ่มต้นจำหน่ายไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนการลงทุนจากธุรกิจโรงไฟฟ้าดังกล่าว

“เราคาดว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในส่วนกำไรในปีนี้จะเติบโตได้ดีกว่าปีก่อน เนื่องจากเราได้เร่งผลักดันรายได้จากทุกกลุ่มธุรกิจ รวมถึงหากธุรกิจโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะแปรรูปสามารถ COD ได้ภายในไตรมาสสุดท้าย ก็จะส่งผลดีต่อผลกำไรของบริษัทฯ นอกจากนี้หากภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากการเริ่มเปิดประเทศ การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และมาตรการเคอร์ฟิว จะส่งผลดีต่อการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการยานยนต์ในช่วงโค้งสุดท้ายต่อเนื่องถึงปีหน้าที่มีแนวโน้มคึกคักขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อรายได้จากธุรกิจการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของบริษัทฯ”

นายปราจิน กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ย. 64)

Tags: , , , ,