นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสเซทไวส์ (ASW) เปิดเผยว่า โครงการ “เคฟ ทียู” (Kave TU) มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท ทำยอดขายได้เกินกว่า 90% ส่งผลให้บริษัทสามารถโอนกรรมสิทธิ์รับรู้รายได้ปลายเดือน ก.ย.64 ได้มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ และสนับสนุนผลงานในไตรมาส 3/64 และไตรมาส 4/64 เติบโตต่อเนื่อง
ทั้งนี้ โครงการ Kave TU เป็นโครงการคอนโดมีเนียม Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร แต่งครบ จำนวน 1,016 ยูนิต ตั้งอยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ พื้นที่ส่วนกลาง และ Facilities กว่า 5,800 ตารางเมตร ,ห้องทำกิจกรรมตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้ยังเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางทั้งรถและรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม (สถานีธรรมศาสตร์รังสิต )
“โครงการ “เคฟ ทียู” มียอดขายที่ดีมาก บริษัทฯสามารถโอนกรรมสิทธิเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา และทำธุรกรรมการโอนกรรมสิทธิได้อย่างรวดเร็ว แม้จะยังไม่มีการเปิดภาคเรียนแบบปกติ แต่ด้วยความพิเศษของโครงการที่โดนใจ กลุ่มนักศึกษา และผู้ปกครอง รวมทั้งระบบรักษาความปลอดภัยจัดเต็ม สร้างความเชื่อมั่นให้กับบรรดาผู้ปกครองที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยให้กับบุตรในระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัย ซึ่ง “เคฟ ทียู” จึงเป็นโครงการที่มีคุณภาพ สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ (New Normal ) และตอกย้ำความเป็นผู้นำของ ASWในการพัฒนาคอนโดที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ของกลุ่มนักศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักได้เป็นอย่างดี”
นายกรมเชษฐ์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังคงเน้นนโยบายการสร้างยอดขายและการรับรู้รายได้ต่อเนื่องในทุกรูปแบบ ซึ่งโดยในไตรมาส 4/64 โครงการ ” โมดิซ สุขุมวิท 50″ (Modiz Sukhumvit 50) มูลค่า 2,100 ล้านบาท จะก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ากว่า 7,600 ล้านบาท จึงทำให้มั่นใจว่าในปีนี้บริษัทยังสามารถเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ในระดับ 20% จากปีก่อนอยู่ที่ 4,205 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ย. 64)
Tags: ASW, กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์, หุ้นไทย, แอสเซทไวส์