นายริค เพอร์รีย์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานในสมัยของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาโจมตีนโยบายพลังงานของคณะบริหารภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยระบุว่านโยบายดังกล่าวจะเป็นตัวกระตุ้นเงินเฟ้อ ขณะข้อจำกัดด้านอุตสาหกรรมน้ำมันสหรัฐและต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นอาจนำชาติไปสู่หายนะได้
นายเพอร์รีย์กล่าวต่อนางแฮดลีย์ แกมเบิล ผู้ประกาศข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่องซีเอ็นบีซีว่า “ข้อจำกัดต่าง ๆ ที่ออกโดยคณะบริหารของปธน.ไบเดน ไม่ว่าจะเป็น ไม่เอาท่อน้ำมัน, ไม่ขุดเจาะน้ำมัน, ไม่ลงทุนด้านโครงการน้ำมันและก๊าซในต่างประเทศ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในด้านความเป็นอิสระด้านพลังงานที่คณะบริหารของทรัมป์ดำเนินการจนสัมฤทธิผล”
ด้วยเหตุนี้ นายเพอร์รีย์จึงกล่าวว่า “มีแนวโน้มอย่างยิ่งที่จะเกิดหายนะขึ้น ทั้งในจุดยืนด้านความมั่นคงแห่งชาติและเสถียรภาพทางไฟฟ้า”
สำหรับราคาพลังงานนั้นได้ทะยานสูงขึ้นทั่วโลกในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยก๊าซธรรมชาติพุ่งขึ้นเกือบ 600% ในปีนี้ และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นกว่า 60% โดยปัจจุบัน น้ำมันดิบเคลื่อนไหวที่ประมาณ 82 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในขณะที่ราคาก๊าซเพิ่มสูงขึ้นในสหรัฐ รัฐบาลของปธน.ไบเดนได้กดดันให้กลุ่มโอเปกและโอเปกพลัส เร่งความเร็วของแผนการเพิ่มผลผลิตน้ำมัน แต่กลุ่มดังกล่าวระบุในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าจะยึดมั่นต่อแผนการเดิมในการเพิ่มผลผลิต 400,000/วันโดยเริ่มตั้งแต่เดือนธ.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ย. 64)
Tags: น้ำมันดิบ, ราคาน้ำมัน, ริค เพอร์รีย์, สหรัฐ, อุตสาหกรรมน้ำมัน, โจ ไบเดน, โดนัลด์ ทรัมป์