นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ได้นิ่งนอนใจ กรณีราคาข้าวตกต่ำ โดยได้กำชับกระทรวงพาณิชย์และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เร่งหาแนวทางว่าจะแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือเกษตรกร และเข้าใจดีว่าขณะนี้เกษตรกรได้รับผลกระทบหลายด้านทั้งจากโรคโควิด-19 น้ำท่วมและราคาข้าวตกต่ำ จึงต้องหาทางบรรเทาความเดือดร้อนโดยเร็ว
ปัญหาราคาข้าวที่ลดต่ำลงในช่วงนี้มาจากปัจจัยหลายด้าน เช่น การส่งออกข้าวไปต่างประเทศและการบริโภคในประเทศที่ลดลง ปริมาณฝนตกชุกและปัญหาน้ำท่วมส่งผลต่อคุณภาพข้าว ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ขณะนี้เริ่มมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศมากขึ้นในช่วง 6 เดือนหลัง ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง เพิ่มความสามารถในการแข่งขันข้าวไทย โดยคาดว่า ปีนี้จะส่งออกได้ราว 6 ล้านตันตามที่ตั้งเป้าไว้ ประกอบกับความต้องการบริโภคในประเทศสัญญานดีขึ้นจากการเปิดประเทศ สถานการณ์น้ำท่วมที่เริ่มคลี่คลายลง และมาตรการที่กระทรวงพาณิชย์เข้าไปแก้ไขปัญหา จะช่วยให้ราคาข้าวเปลือกในตลาดดีขึ้นเป็นลำดับ และล่าสุด ธนาคาร ธ.ก.ส. แจ้งว่าระบบจะสามารถโอนเงินให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในโครงการประกันรายได้ งวดแรกในวันที่ 9 พ.ย.นี้
สำหรับมาตรการดูแลชาวนามีทั้งโครงการประกันรายได้ปี 64/65 โดยกำหนดราคาข้าวเปลือกที่ความชื้นไม่เกิน 15% เช่น ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท รวมทั้งยังมีมาตรการคู่ขนานเหมือนกับปีก่อนโดยให้เกษตรกรรวบรวมจัดเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง ซึ่งจะได้รับค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท และรับซื้อข้าวเปลือกกับสหกรณ์และโรงสีเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง โดยชดเชยดอกเบี้ย 3% ระยะเวลา 2-6 เดือน สำหรับโรงสี และ 1 ปี สำหรับสหกรณ์
นอกจากนี้กรมการค้าภายในยังได้อนุมัติให้ผู้ประกอบการนอกพื้นที่เข้าไปช่วยรับซื้อข้าวเหนียวในพื้นที่ภาคเหนือ 7 จังหวัด ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2564 และอนุมัติโครงการตลาดนัดข้าวเปลือกให้มีผู้รับซื้อเข้าไปแข่งขันรับซื้อในพื้นที่ที่มีผู้รับซื้อไม่เพียงพอกับผลผลิต เพื่อให้เกิดการแข่งขันและราคา ใน 19 จังหวัด อีกด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 พ.ย. 64)
Tags: ธ.ก.ส., ธนกร วังบุญคงชนะ, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, ราคาข้าว, เกษตรกร, โครงการประกันรายได้