นายกฤตวัฒน์ เตชะอุบล กรรมการบริหาร บมจ. เจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล (JCK) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศเตรียมเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤจิกายน 2564 นั้น บริษัทคาดว่าจะได้รับผลเชิงบวก เนื่องจากการค้าและการลงทุนที่เคยชะงัก จากสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะกลับมาคึกคัก ซึ่งจะสนับสนุนให้บริษัทสามารถขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี เฟส 2 ได้ประมาณ 60 ไร่ ภายในสิ้นปี 64 นี้
ในส่วนของธุรกิจแวร์เฮ้าสที่มีจำนวน 1 แสนตารางเมตรนั้น ได้ปล่อยให้เช่าไปแล้วในสัดส่วน 60% คาดว่าภายหลังการเปิดประเทศจะทำให้เกิดความต้องการเช่าและซื้อแวร์เฮ้าส์มากขึ้น
“แนวโน้มรายได้ของบริษัทฯ จะมีทิศทางที่ดีขึ้น และคาดว่าในปี 65 เชื่อมั่นว่าสถานการณ์ของโควิด-19 จะคลี่คลายมากว่านี้ ประชาชนได้รับวัคซีนในวงกว้าง คาดว่าจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ทำให้มั่นใจว่าการค้าและการลงทุนจะกลับมาคึกคักเข้าสู่ภาวะปกติ”
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังคงเดินหน้าตามแผนกระจายฐานรายได้ด้วยการรุกสู่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงราย เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ มีโอกาสขยายตัวค่อนข้างสูง และเป็นจังหวัดที่เชื่อมรอยต่อไปยังต่างประเทศ ข้อสำคัญรถไฟเส้นทางคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน-นครหลวงเวียงจันทร์ สปป.ลาว กำหนดเปิดในช่วงปลายปีนี้ สามารถดึงการค้าและการลงทุนจากจีนเข้ามาได้ และเป็นจังหวะเดียวกับรัฐบาลประกาศเปิดประเทศ ซึ่งตามแผนบริษัทฯได้ลงทุนที่ดินเพื่อเตรียมพัฒนาด้วยตนเอง และในรูปแบบร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการท้องถิ่น โดยคาดว่าจะเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวเป็นโครงการแรกในช่วงต้นปี 65
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ต.ค. 64)
Tags: JCK, กฤตวัฒน์ เตชะอุบล, หุ้นไทย, เจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล