นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะเป็นธนาคารกลางแห่งแรกในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของโลกที่จะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีที่แล้ว
ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินทั้งในเดือนพ.ย.และธ.ค. รวมทั้งจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นต่อไปในปีหน้า หลังจากที่นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE ส่งสัญญาณบ่งชี้ว่า BoE มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น
ทั้งนี้ การซื้อขายสัญญาอัตราดอกเบี้ยในตลาดฟิวเจอร์บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.15% ในเดือนพ.ย. และ 0.25% ในเดือนธ.ค. รวมทั้งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปี 2565 ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ BoE พุ่งแตะระดับ 1.25%
นายเบลีย์ส่งสัญญาณบ่งชี้ว่า BoE มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีที่แล้ว เพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น
นายเบลีย์กล่าวว่า BoE จำเป็นต้องดำเนินการเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ แม้เขาเชื่อว่าการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อในระยะนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว
นายเบลีย์คาดการณ์ว่าการพุ่งขึ้นของราคาพลังงานจะเป็นปัจจัยผลักดันให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นต่อไป ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงต่อคาดการณ์เงินเฟ้อที่สูงขึ้น
“นโยบายการเงินไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้านอุปทาน ทำให้ธนาคารกลางต้องดำเนินการเมื่อพบความเสี่ยงต่อคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะกลาง” นายเบลีย์กล่าวในการเสวนาผ่านระบบออนไลน์วานนี้ที่จัดขึ้นโดยกลุ่มที่ปรึกษาที่เรียกว่า Group of 30
BoE คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในอังกฤษจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 4% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของ BoE ถึง 2 เท่า ขณะที่อังกฤษทำการเปิดเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอุปทาน และการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน หลังจากที่รัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ต.ค. 64)
Tags: BoE, ธนาคารกลางอังกฤษ, อังกฤษ, อัตราดอกเบี้ยนโยบาย