นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและเก็บกักน้ำคลองไผ่ จ.สงขลา ว่า ที่ผ่านมาประสบปัญหาการระบายน้ำออกจากพื้นที่ เนื่องจากมีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบชายทะเล ถูกขนาบด้วยทะเลสาบสงขลาและทะเลอ่าวไทย พื้นที่ราบริมทะเลสาบมีระดับพื้นที่ต่ำกว่า ส่วนพื้นที่ทางทิศตะวันออกมีลักษณะเป็นสันทรายที่ยกตัวสูงกว่า ส่งผลให้อำเภอระโนดเกิดอุทกภัยอยู่เป็นประจำ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรับปรุงคลองธรรมชาติ ได้แก่ คลองกก คลองตะเครียะ คลองไผ่ คลองระโนด คลองศาลาธรรม์ และคลองแดน เพื่อเป็นเส้นทางในการระบายน้ำ อีกทั้งยังสามารถใช้คลองธรรมชาติที่ได้ปรับปรุงดังกล่าวเป็นแหล่งเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝนเพื่อใช้ในช่วงฤดูแล้งได้อีกด้วย โดยโครงการนี้เป็น 1 ในโครงการที่ช่วยเรื่องอุทกภัยและการขาดแคลนน้ำในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ จังหวัดสงขลา
สำหรับการดำเนินงานโครงการนั้น กรมชลประทานจะเริ่มในปีงบประมาณ 65 โดยมีแผนดำเนินการให้แล้วเสร็จในปีงบประมาณ 67 ซึ่งจะมีการขุดขยายคลองระบายน้ำกว้าง 34 เมตร ลึก 4 เมตร ความยาว 16 กิโลเมตร สามารถระบายน้ำได้ประมาณ 22.582 ลูกบาศก์เมตร/วินาที พร้อมก่อสร้างถนนคันคลอง 2 ฝั่ง (ลาดยางผิวจราจรฝั่งขวา และลูกรังถมบดอัดแน่นฝั่งซ้าย) ก่อสร้างประตูระบายน้ำ 2 แห่ง สะพานรถยนต์ 21 แห่ง ท่อระบายน้ำลอดถนน 4 แห่ง และอาคารรับน้ำ 41 แห่ง หากดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถช่วยระบายน้ำ บรรเทาอุทกภัยในช่วงฤดูน้ำหลาก และเก็บกักน้ำ ช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกของราษฎร ทั้งฤดูฝนและฤดูแล้ง ประมาณ 1,917 ไร่ ตลอดจนเป็นแหล่งเก็บกักน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคอีกด้วย
“สิ่งที่จะดำเนินการก่อสร้างนั้นต้องได้รับความเห็นชอบจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จึงอยากให้ทราบว่าการดำเนินโครงการต่างๆ จะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังมีการแก้ไขปัญหาในส่วนอื่นๆ ด้วย อาทิ ที่ดินทำกิน การพัฒนาที่ดิน การดูแลผลผลิตทางการเกษตร ภาคการเกษตรทั้งระบบ รวมถึงการสนับสนุนช่องทางการตลาดอื่นๆ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ พร้อมจะเข้ามาดูแลเกษตรกรทุกคน เพื่อให้มีความเข้มแข็ง และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป” นายเฉลิมชัย กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ต.ค. 64)
Tags: กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, คาบสมุทรสทิงพระ, น้ำท่วม, น้ำแล้ง, เฉลิมชัย ศรีอ่อน