ประธานบริษัทไฮเซนส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตโทรทัศน์และเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของจีน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า ปัญหาการขาดแคลนชิปทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อไปอีก 2-3 ปี
ปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อหลายภาคอุตสาหกรรม ตั้งแต่บริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ผลิตรถยนต์ และเกม เช่นเดียวกับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนที่กำลังประสบปัญหาเช่นเดียวกัน
ไฮเซนส์ยอมรับว่า ทางบริษัทเผชิญปัญหาด้านต้นทุนการผลิตที่พุ่งสูงขึ้น แต่ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปได้ โดยชิปที่ไฮเซนส์ใช้จะเป็นชิปที่ไม่มีความซับซ้อน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการสั่งนำเข้ามาในจีน
อย่างไรก็ตาม เซมิคอนดักเตอร์ได้สร้างความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งทำสงครามการค้าขับเคี่ยวมาตั้งแต่ยุคอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ โดยสหรัฐได้ตัดสิทธิ์ไม่ให้บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริง อินเตอร์เนชันแนล คอร์ป (SMIC) ของจีนใช้เทคโนโลยีของสหรัฐ
ทั้งนี้ รายงานระบุว่ามีหลายปัจจัยที่นำไปสู่การขาดแคลนชิป รวมถึงความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในช่วงล็อกดาวน์ทั่วโลก นอกจากนี้ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนยังส่งผลให้บริษัทต่าง ๆ กักตุนชิปอีกด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ต.ค. 64)
Tags: ขาดแคลนชิป, จีน, เซมิคอนดักเตอร์