นายเดวิด เออร์ไวน์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FIRB) เปิดเผยในวันนี้ว่า ออสเตรเลียไม่ได้ปิดกั้นนักลงทุนชาวจีน แต่ข้อกังวลด้านความมั่นคงของประเทศและการปกป้องโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญนั้น จะเป็นปัจจัยหลักในการอนุมัติข้อตกลง
มูลค่าการลงทุนของจีนในออสเตรเลีย ลดลงกว่า 50% มาอยู่ที่ประมาณ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (8.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากจีนควบคุมเงินทุนอย่างเข้มงวดขึ้น และความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศถดถอยลง
“เราดำเนินนโยบายการลงทุนแบบไม่เลือกปฏิบัติทั้งในแง่ของภาคธุรกิจที่คุณสามารถลงทุนได้ (และ) ประเทศที่เป็นแหล่งที่มาของการลงทุน”
นายเออร์ไวน์กล่าวในการประชุมซิตี้ อินเวสต์เมนต์
นายเออร์ไวน์ระบุว่า 20% ของธุรกรรมที่ได้รับอนุมัติในปีที่ผ่านมานั้น จีนมีส่วนร่วมในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง “เรายังคงยินดีรับคำขอลงทุนจากชาวจีน หากพวกเขาลงทุนในภาคธุรกิจที่มีผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของชาติมาเกี่ยวข้อง พวกเขาจะต้องได้รับการพิจารณาเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ที่ลงทุนในภาคธุรกิจเหล่านั้น”
ทั้งนี้ จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย โดยมีมูลค่าการส่งออกถึง 1.94 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในเดือนก.ค. อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ทางการทูตเริ่มเสื่อมถอยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และจีนได้จำกัดการนำเข้าถ่านหิน, ไวน์ และข้าวบาร์เลย์ท่ามกลางข้อพิพาทระหว่าง 2 ประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ต.ค. 64)
Tags: FIRB, ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ, จีน, ออสเตรเลีย, เดวิด เออร์ไวน์