ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงช่วงเช้านี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากการพุ่งขึ้นของต้นทุนพลังงาน รวมทั้งความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจีนจะออกมาตรการควบคุมอุตสาหกรรมภาคเอกชนในขอบข่ายที่กว้างขึ้น
ณ เวลา 09.07 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 133 จุด หรือ 0.39% แตะที่ 34,243 จุด
นักลงทุนกังวลว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันจะส่งผลให้ต้นทุนพลังงานดีดตัวและก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อตามมา นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นยังอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทเอกชน และบั่นทอนการใช้จ่ายของผู้บริโภค
ราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้นทะลุระดับ 82 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายระหว่างวันเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) ก่อนที่ปิดตลาดที่ระดับ 80.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.5% จากระดับปิดของวันศุกร์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลกับรายงานที่ว่า รัฐบาลจีนกำลังรุกตรวจสอบอุตสาหกรรมในภาคเอกชนเป็นวงกว้าง โดยตรวจสอบความสัมพันธ์กับธนาคารของรัฐ
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐ โดยเจพีมอร์แกนมีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3/2564 ในวันพุธนี้ ส่วนโกลด์แมน แซคส์, แบงก์ ออฟ อเมริกา, มอร์แกน สแตนลีย์, เวลส์ ฟาร์โก และซิตี้ กรุ๊ป จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อเป็นสัญญาณบ่งชี้ไทม์ไลน์ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ต.ค. 64)
Tags: dow jones futures, ดาวโจนส์ฟิวเจอร์