ราคาหุ้น TU ร่วง 4.17% มาอยู่ที่ 20.70 บาท ลดลง 0.90 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,364.26 ล้านบาท เมื่อเวลา 15.14 น. โดยเปิดตลาดที่ 21.60 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 21.60 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 20.60 บาท
บล.เคทีบีเอสที เผยในบทวิเคราะห์ว่า คาด บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) จะรายงาน core profit ในไตรมาส 3/64 อยู่ที่ 1,764 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาส 2/64 เนื่องจากปริมาณขายลดลงจากการปิดโรงงานที่สงขลาประมาณ 10 วันจากโควิด-19 ในไทย โดยสามารถกลับมา run เต็ม capacity ได้ในช่วง ก.ย.64
ด้าน SG&A/Sales ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่อง และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อยลดลงจากปีก่อน ของ Red lobster (RL) จากค่าใช้จ่ายพนักงานสูงขึ้นหลังกลับมาเปิดร้าน 100% และกำไรของ Avanti ลดลงจากการระบาดของโควิด-19 ในอินเดีย
ขณะที่ราคาหุ้น outperform SET +8% ใน 1 เดือน จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าต่อเนื่อง และแผนที่จะนำบริษัทลูกเข้าตลาด 2 บริษัทได้แก่ TFM และ I-Tai
ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น TU มองว่าผลการดำเนินงานหดตัวในไตรมาส 3/64 เป็นผลกระทบระยะสั้นจากโควิด-19 แต่ในระยะยาวยังชอบแผนการเติบโตของบริษัทที่จะรุกสู่ธุรกิจ high margin เป็นหลัก และบริษัทมีแผน unlock value ด้วยการนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง และ valuation ยังน่าสนใจ ปัจจุบันเทรดที่ 2021E PER 15 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 6 ปี ที่ 22 เท่า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ต.ค. 64)
Tags: TU, หุ้นไทย, ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป