นายเต็งกู ซาฟรูล อับดุล อาซิซ รมว.คลังมาเลเซียเปิดเผยว่า มาเลเซียจะทบทวนคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจ รวมถึงยอดขาดดุลงบประมาณอีกครั้ง หลังจากที่รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์เต็มรูปแบบเป็นเวลา 2 สัปดาห์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายซาฟรูลกล่าวว่า รัฐบาลอาจต้องกู้ยืมเงินเพิ่มเติม เพื่อนำมาสนับสนุนแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่วงเงิน 4 หมื่นล้านริงกิต (9.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศ โดยตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจใหม่จะมีการประกาศในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ เศรษฐกิจมาเลเซียในไตรมาส 1/2564 ยังคงหดตัวลงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4 โดยรัฐบาลและธนาคารกลางมาเลเซียคาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะขยายตัวที่ราว 6%-7.5% ในปีนี้ หลังจากที่หดตัวลง 5.6% ในปีที่ผ่านมา ขณะที่ตัวเลขคาดการณ์ยอดขาดดุลงบประมาณอยู่ที่ 6%
รัฐบาลจะต้องใช้เวลา 2-3 วันในการตรวจสอบค่าใช้จ่ายรายวันที่เป็นผลพวงจากมาตรการล็อกดาวน์ โดยนายซาฟรูลระบุว่า การล็อกดาวน์ในลักษณะที่คล้ายคลึงกันในปี 2563 ทำให้ประเทศได้รับความเสียหายประมาณ 6.3 หมื่นล้านริงกิต
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ออกแถลงการณ์ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศระหว่างวันที่ 1-14 มิ.ย. เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยจะจำกัดกิจกรรมทั่วประเทศ ซึ่งมีเพียงภาคเศรษฐกิจและบริการที่มีความจำเป็นเท่านั้นที่จะสามารถดำเนินการต่อไปได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มิ.ย. 64)
Tags: กระทรวงการคลัง, มาเลเซีย, ล็อกดาวน์, เต็งกู ซาฟรูล อับดุล อาซิซ