SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,614.48 จุด เพิ่มขึ้น 9.31 จุด (+0.58%) มูลค่าการซื้อขาย 78,693.93 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้น จากแรงหนุนหลายปัจจัยทั้งใน-นอกประเทศ โดยมีทั้งคาดหวังยาต้านโควิดตัวใหม่ของ “เมอร์ค แอนด์ โค” จะยื่นเรื่อง FDA ขอใช้ยา”โมลนูพิราเวียร์”ในกรณีฉุกเฉิน แต่หลายตลาดต่างประเทศไม่ค่อยตอบสนองเท่าไร โดยตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ ขณะที่ตลาดในยุโรปแกว่งลบเล็กน้อยเช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส นอกจากนี้สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศก็คลายตัวทำให้ไปหนุนกลุ่ม Reopening เด้งขึ้นหนุนตลาดฯ-สถานการณ์น้ำท่วมก็ไม่น่ารุนแรง จับตาประชุมกลุ่มโอเปกพลัสวันนี้ พรุ่งนี้ตลาดฯคงจะแกว่งในกรอบ 1,600-1,625 จุดหลังสถานการณ์น้ำท่วมยังไม่ชัดเจน
- ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,614.48 จุด เพิ่มขึ้น 9.31 จุด (+0.58%) มูลค่าการซื้อขาย 78,693.93 ล้านบาท
- การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,619.62 จุด และระดับต่ำสุด 1,610.96 จุด
- ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 883 หลักทรัพย์ ลดลง 781 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 577 หลักทรัพย์
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ จากแรงหนุนหลายปัจจัยทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยมีทั้งยาต้านโควิดตัวใหม่ของ “เมอร์ค แอนด์ โค” ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐ ที่เตรียมยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เพื่อขออนุมัติการใช้ยาตัวใหม่ โมลนูพิราเวียร์ (molnupiravir) ในกรณีฉุกเฉิน หลังการทดลองทางคลินิกได้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจ แต่เรื่องนี้ดูเหมือนตลาดต่างประเทศไม่ค่อยจะตอบสนองเท่าไร โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียแกว่งไซด์เวย์ทั้งในแดนบวก-ลบ ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้แกว่งในแดนลบเล็กน้อย เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ติดลบเล็กน้อย
ส่วนปัจจัยในประเทศเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่คลายตัวทำให้หุ้นในกลุ่ม Reopening ต่างปรับตัวขึ้นมาหนุนตลาดฯ และสถานการณ์น้ำท่วมก็ไม่น่ารุนแรง
อย่างไรก็ดี วันนี้ให้ติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกพลัส ในเรื่องเกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิต และพรุ่งนี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของไทย
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (5 ต.ค.) นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยคงจะแกว่งในกรอบ 1,600-1,625 จุด หลังสถานการณ์น้ำท่วมยังไม่ชัดเจน
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
- KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,308.55 ล้านบาท ปิดที่ 137.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
- AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,964.67 ล้านบาท ปิดที่ 62.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
- GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,753.05 ล้านบาท ปิดที่ 43.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
- BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,492.93 ล้านบาท ปิดที่ 13.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
- BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,178.32 ล้านบาท ปิดที่ 116.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ต.ค. 64)
Tags: ตลาดหุ้น, วิจิตร อารยะพิศิษฐ, หุ้นไทย